12:52

ไฟชีวิต

เรื่อง : ชัยวัฒน์ คุประตกุล



เมื่อมนุษย์ค้นพบไฟ มนุษย์ก็ขาดไฟไม่ได้!

ไฟ กลายเป็นของวิเศษ ให้ทั้งความสว่างในเวลาค่ำคืน และช่วยป้องกันภัยจากสัตว์ร้าย ให้ทั้งความมีรสชาติ และคุณค่าของอาหารที่สุก ทำให้มนุษย์ยกระดับแตกต่างขึ้นมาจากสัตว์ จากที่เคยดำเนินชีวิตไม่แตกต่างไปจากสัตว์ กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ดิบๆ มาเป็นสัตว์ชั้นสูงประเภทเดียวที่รู้จักใช้ไฟทำเนื้อสัตว์ให้สุกเป็นอาหาร

แต่ไฟก็มิใช่จะให้เฉพาะสิ่งสร้างสรรค์ เพราะไฟก็ให้ความสูญเสียเช่นเดียวกัน เมื่อควบคุมไม่ได้ หรือถูกนำไปใช้อย่างตั้งใจในการเผาทำลายทรัพย์สินที่อยู่อาศัย และถึงขั้นหมายปองชีวิตของศัตรูฝ่ายตรงข้าม



มาถึงทุกวันนี้ มนุษย์ก็ดูจะยิ่งขาดไฟไม่ได้ เพียงแต่ว่า ไฟที่มนุษย์ต้องเกี่ยวข้องมากเป็นพิเศษ มิใช่ไฟธรรมดา หากเป็นไฟชีวิต อยู่ภายในจิตใจของมนุษย์ ไฟชีวิตที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ทำให้มนุษย์ทุกวันนี้... แตกต่างกัน

ความแตกต่างที่แบ่งมนุษย์ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหนึ่ง เป็นมนุษย์ที่มีไฟชีวิตแรงกล้า ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นมนุษย์ที่มีชีวิต... แต่เสมือนไม่มีไฟชีวิต หรือมี แต่มีไฟชีวิตที่อ่อนมาก

มนุษย์กลุ่มแรกที่มีไฟชีวิตแรงกล้า จะเป็นกลุ่มมนุษย์ที่กระฉับกระเฉง ความคิดไม่หยุดนิ่ง ขยับเคลื่อนไหว ทำโน่น ทำนี่ คิดโน่น คิดนี่ อยู่ตลอดเวลา และเป็นคนที่ไม่ปล่อยให้ชีวิตล่องลอยไปตามยถากรรม เพราะคนที่มีไฟชีวิตแรงกล้า มักเป็นคนที่มีปัญญาสูง หรือเป็นคนเก่ง และมักจะไม่ปล่อยให้อนาคตเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาตนเอง หากจะเป็นคนที่พยายามกำหนดเป้าหมายชีวิตของตนเอง และจะเป็นคนที่ “วิ่ง” หาอนาคต

ส่วนมนุษย์กลุ่มที่สอง ที่เสมือนไม่มีไฟชีวิต หรือมีไฟชีวิตที่อ่อนมาก โดยทั่วไป จะมีชีวิตที่ค่อนข้างราบเรียบ ไม่หวือหวา ไม่แสดงความกระฉับกระเฉงในกิจกรรมแทบจะทุกอย่าง โดยเฉพาะที่ทำงาน แต่หลายคนก็มีชีวิตที่ราบเรียบ แม้แต่ที่บ้านด้วย

ความแตกต่างที่มักปรากฏชัดเจนระหว่างคนสองกลุ่ม คือ กลุ่มแรก... จะเป็นกลุ่มที่มีผลงานแสดงออกมาอย่างประจักษ์ มีความเคลื่อนไหวในตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือความก้าวหน้าในการทำงานมากกว่า เร็วกว่า และสูงกว่า

แต่... คนกลุ่มแรก... มิใช่จะมีความสุขมากกว่าคนกลุ่มที่สองเสมอไป!

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

ก็เพราะว่าคนในกลุ่มแรกที่เป็นกลุ่มมีไฟชีวิตแรงกล้านั้น จริงๆ แล้ว ก็แบ่งได้เป็นอีก 2 กลุ่มใหญ่ คือ ไฟที่มีอยู่ในตัวคนมีไฟชีวิตแรงกล้านั้น เป็นไฟชีวิตแบบ ไฟทิพย์ หรือเป็นแบบ ไฟโลกันต์

.........

คนที่มีไฟชีวิตแรงกล้าแบบ ไฟทิพย์... หมายถึง คนที่มีจิตใจกระตือรือร้น กระฉับกระเฉง ใช้สมองอย่างไม่หยุดนิ่ง มีความมุ่งมั่นสูงในการทำกิจกรรมทุกอย่าง รวมถึงการดำเนินชีวิตด้วย ที่ยึดมั่นในความถูกต้อง ดีงาม ยุติธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เป็นที่ตั้ง...

ทั้งนี้ มิได้หมายความว่า จะไม่เคยทำอะไรผิดพลาด แต่ถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็เป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่เจตนา

ส่วนคนที่มีไฟชีวิตแรงกล้าแบบ ไฟโลกันต์... หมายถึง คนที่มีจิตใจกระตือรือร้น กระฉับกระเฉงใช้สมองอย่างไม่หยุดนิ่ง มีความมุ่งมั่นสูงในการทำกิจกรรมทุกอย่าง รวมถึงการดำเนินชีวิตด้วย เช่นเดียวกับกลุ่มคนมีไฟชีวิตแรงกล้าแบบ ไฟทิพย์ แต่แตกต่างกันตรงที่คนมีไฟชีวิตแบบไฟโลกันต์จะมีความทะเยอทะยานสูงมากเป็นพิเศษ มีความมักใหญ่ใฝ่สูงอย่างแรงกล้า มักจะตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ที่ “จุดสูงสุด” ของทุกเรื่องทุกสิ่งที่เกี่ยวข้อง แล้วก็จะทำทุกอย่าง ทุกวิถีทาง ทุกวิธีการ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง กฎหมาย ศีลธรรม ความยุติธรรม คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ

.........

เรื่องของมนุษย์กับไฟชีวิต จริงๆ แล้ว จึงแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มมีไฟชีวิตแรงกล้าแบบไฟทิพย์ 2.กลุ่มมีไฟชีวิตแรงกล้าแบบไฟโลกันต์ และ 3.กลุ่มเสมือนไม่มีไฟชีวิตหรือมีไฟชีวิตอ่อน

ในแง่ความสำเร็จของคน 3 กลุ่มนี้ อย่างเผินๆ จะเป็นดังนี้ 1.กลุ่มมีไฟชีวิตแรงกล้าแบบไฟโลกันต์ จะเป็นกลุ่มที่บรรลุเป้าหมายชีวิตเร็วที่สุด มากที่สุด เหนืออีก 2 กลุ่ม 2.กลุ่มมีไฟชีวิตแรงกล้าแบบไฟทิพย์ จะเป็นกลุ่มที่บรรลุเป้าหมายชีวิตช้ากว่ากลุ่มมีไฟชีวิตแบบไฟโลกันต์ และ 3.กลุ่มเสมือนไม่มีไฟชีวิต หรือมีไฟชีวิตอ่อน จะเป็นกลุ่มที่โดยทั่วไป ประสบความสำเร็จในชีวิตช้า และน้อยที่สุด

ทว่า เรื่องความสำเร็จ กับ ความสุข ไม่จำเป็นจะต้อง “ไปด้วยกัน” เสมอ โดยเฉพาะในเรื่อง “ไฟชีวิต” ของคนเราวันนี้ เพราะสำหรับคน 3 กลุ่มนี้ ในความคิดของผู้เขียน ถ้าจะเปรียบเทียบกับความสุขกันแล้ว ผู้เขียนขอจัดลำดับของกลุ่มที่มีโอกาสประสบกับความสุขที่แท้จริง และยั่งยืน ดังนี้...

กลุ่มมีไฟชีวิตแรงกล้าแบบ ไฟทิพย์ มีโอกาสที่จะประสบกับความสุขที่แท้จริง และยั่งยืนมากที่สุด

กลุ่มที่เสมือนไม่มีไฟชีวิต หรือมีไฟชีวิตอ่อน มีโอกาสที่จะประสบกับความสุขที่แท้จริง และยั่งยืนน้อยกว่ากลุ่มมีไฟชีวิตแรงกล้า แบบไฟทิพย์ แต่ช่องว่างจะไม่ห่างกันนัก

กลุ่มที่มีไฟชีวิตแรงกล้าแบบไฟโลกันต์ เป็นกลุ่มที่จะมีความสุขที่ยั่งยืนได้น้อยที่สุด

แล้วคุณผู้อ่านล่ะครับ คิดอย่างไร


วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น