11:24

ค้นพบ บทที่ 10 พระเยซูจะเสด็จกลับมาอย่างเร็วคือเมื่อใด?

-หมายสำคัญ 10 ประการที่บอกว่าพระคริสต์จะเสด็จกลับมาในวันเวลาของเรา
-พระเยซูจะเสด็จมาเมื่อไร?
-ความหวังเดียวของโลก

พระเยซูจะเสด็จกลับมาอย่างเร็วคือเมื่อใด? 



ในปี 1978 มีการค้นพบยาวิเศษทำให้มนุษย์อายุยืนยาวขึ้นสองเท่า

ในปี 1980 ตามหัวเมืองสำคัญๆทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาถือว่า การใช้เครื่องจักรกลที่มีการสันดาปเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

ในปี 1981 มอนทานาได้กลายเป็นรัฐต้องโทษแห่งแรกของอเมริกา นักโทษคดีอาชญากรรมที่ถูกตัดสินให้จำคุกถูกส่งมาที่นี่ทั้งหมด

ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมปี 1983 ผู้หญิงทุกคนในเซนต์หลุยส์ผมร่วงหมด

ท่านพลาดข่าวที่น่าทึ่งเหล่านี้บ้างหรือไม่ ? บางทีอาจจะพลาด เพราะไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน แต่ทั้งหมดนี้ภาควิชาจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงได้ทำนายไว้แล้วด้วยความมั่นใจ


พวกเราส่วนใหญ่มักจะมีแรงกระตุ้นตามสัญชาติญาณที่อยากมองเข้าไปในอนาคต เราอยากรู้ว่ามีอะไรที่เลยขอบฟ้านั่น แต่การทำนายที่ถูกต้องก็ยังคงเป็นเรื่องยากมากๆที่จะเข้าใจ ซึ่งก็ยากพอๆกับที่เราทำนายว่าวันพรุ่งนี้อากาศจะเป็นอย่างไร!

อย่างไรก็ตามคำพยากรณ์ของคนบางคนก็ได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องอย่างน่าทึ่ง องค์พระเยซูคริสต์ (โดยผ่านทางพระวจนะของพระองค์) ทรงสามารถพาเราเข้าไปในอนาคต พระองค์ทรงเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือ ในบทนี้เราจะพิจารณาถึงสิ่งที่พระองค์ทรงตรัสไว้เกี่ยวกับการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระองค์ และสุดท้ายใครเล่าที่จะล่วงรู้วาระสุดท้ายของโลกได้มากไปกว่าพระองค์ผู้ทรงสร้างโลกในปฐมกาล?
หมายสำคัญต่างๆที่บอกว่าพระคริสต์จะเสด็จกลับมาในวันเวลาของเรา




หลังจากที่พระเยซูทรงให้ความมั่นใจ แก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาในโลก เป็นครั้งที่สอง (ยอห์น 14:1-3) พวกสาวกถามพระองค์ว่าะไร?

สาวกกราบทูลว่า   ขอโปรดให้พวกข้าพระองค์ทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่   และอะไรเป็นหมายสำคัญว่า พระองค์จะเสด็จมาและยุคเก่าจะสิ้นสุดลง?’”
— มัทธิว 24:3 (หากมิได้ทำเครื่องหมายใดไว้ บทความในพระคัมภีร์ทั้งหมดในบท ค้นพบ นี้มาจากพระคัมภีร์สากลฉบับใหม่ [เอ็นไอวีแปลไทยจาก พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิม ฉบับ 1971 (ย่อขนาดปี1998)ภาคพันธสัญญาใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2002 สงวนลิขสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย ใช้โดยได้รับอนุญาต”)
พระเยซูทรงตอบชัดเจนและแน่นอนในพระวจนะมัทธิวบทที่   24   และลูกาบทที่   21   พระองค์ทรงให้   “หมายสำคัญ”   ต่างๆหรือหลักฐานต่างๆไว้ด้วยพระองค์เอง   ทำให้รู้ว่าการเสด็จของพระองค์ใกล้มาถึงแล้ว   คำพยากรณ์อื่นๆในพระคัมภีร์ได้ต่อเติมภาพให้เห็นรายละเอียดเหตุการณ์ต่างๆของโลก   ซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนการเสด็จกลับมาของพระคริสต์   เหมือนอย่างที่เราเห็นคำพยากรณ์เหล่านี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงต่อหน้าต่อตาทุกคู่ของเรา   คำพยากรณ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการเสด็จกลับมายังโลกของพระคริสต์อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง

พวกเราลองดูหมายสำคัญสิบประการของคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์   ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างทางที่จะไปสวรรค์   แล้วลองดูคำถามที่นักเดินทางในโลกสมัยใหม่อาจจะถามขึ้น   ขณะที่เขาอ่านอยู่ในตอนนี้

หมายสำคัญที่ 1 — ความทุกข์ร้อน!   ความน่ากลัว!   ความฉงนสนเท่ห์!


ท่านจะอธิบายยุควิทยาการสมัยใหม่ว่าอย่างไร   ที่คอยปรนเปรอความสุขให้กับมนุษย์มากขึ้นๆเรื่อยๆ   แต่ยังคงภาพครอบครัวที่แตกแยก และภาพความรุนแรงที่เกิดจากละแวกเพื่อนบ้านให้เห็น?   พระเยซูทรงทำนายชีวิตสมัยใหม่ของเราไว้ตั้งแต่หนึ่งพันเก้าร้อยกว่าปีก่อน   ซึ่งตรงกับชีวิตสมัยใหม่ของเราที่เกิดขึ้นจริงๆในตอนนี้   ช่างแม่นยำเหมือนเหตุการณ์ที่มาจากข่าวรอบดึกยังไงยังงั้นเลย

จะมีหมายสำคัญที่ดวงอาทิตย์   ที่ดวงจันทร์   และที่ดวงดาวทั้งหลาย   และบนแผ่นดินนั้น   ชาติต่างๆก็จะมีความทุกข์ร้อน และความฉงนสนเท่ห์  เพราะเสียงกึกก้องของทะเลและคลื่น   มนุษย์จะสลบไสลไปเพราะความกลัว   เนื่องจากสังหรณ์ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในโลก   เพราะว่าบรรดาสิ่งที่มีฤทธานุภาพในท้องฟ้าจะสะเทือนสะท้าน   และเมื่อนั้นพวกเขาจะเห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาในเมฆ   ด้วยฤทธานุภาพและพระรัศมีอันยิ่งใหญ่   เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้เริ่มจะเกิดขึ้นนั้น   จงลุกขึ้นยืนและผงกศีรษะขึ้น เพราะว่าการไถ่ตัวพวกท่านใกล้จะมาถึง
— ลูกา 21:25-28
ไม่มีคำอธิบายใดจะถูกต้องไปมากกว่านี้อีกแล้ว   สำหรับโลกปัจจุบันที่เขียนไว้ว่า   “มนุษย์จะล้มลงเพราะการก่อการร้าย   และหวาดหวั่นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นบนโลก”   เด็กรุ่นนี้โตมากับร่างเงากองอาวุธยุทธปกรณ์ที่กักตุนไว้อย่างดีเพื่อทำลายโลกทั้งใบ   ความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้เรื่องในอดีตกลายเป็นเรื่องเล็กกระจ้อยร่อยไปโดยปริยาย   “หากผู้ก่อการร้ายใช้หัวรบขีปนาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมาต่อสู้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?”
         
แต่พระเยซูทรงมอบหลักแห่งความหวังแก่เราเพื่อชีวิตในยุคแห่งความหายนะนี้   วิกฤตแห่งความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปัจจุบัน   ความทุกข์ร้อนและความฉงนสนเท่ห์” เป็นสิ่งเสริมให้เห็นความจริงที่ว่า   การเสด็จมาของพระคริสต์   “ใกล้แค่เอื้อม”   แล้วจริงๆ

ปัจจุบันคนเราชอบร้องครวญครางอย่างหมดกำลังใจอยู่บ่อยๆ   “ดูเถิด โลกของเรากลายเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย!” แต่ผู้ที่ศึกษาคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์สามารถอุทานด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังว่า “ดูเถิด พระผู้ช่วย กำลังจะเสด็จมาในโลกของเรา

หมายสำคัญที่ 2 — ความหายนะของโลก

ภัยธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไรกับวาระสุดท้ายของโลก?


ทั้งจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่   การกันดารอาหาร   และโรคระบาด ในที่ต่างๆ   และจะเกิดความน่าสะพรึงกลัว และหมายสำคัญใหญ่ๆจากฟ้าสวรรค์   เช่นนั้นแหละเมื่อท่านทั้งหลายเห็นเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น   ก็ให้รู้ว่าแผ่นดินของพระเจ้าใกล้จะมาถึงแล้ว
— ลูกา 21:11, 31
ผู้ที่ไม่เชื่ออาจจะพูดว่า   “แล้วทำไม?   ความอดอยากและแผ่นดินไหวจึงเกิดขึ้นเสมอๆ”   แต่ลองคิดถึงความอดอยากสักนิดเถิด   มันไม่น่าประหลาดใจเลยหรือ   ที่โลกสามารถส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ได้   แต่  ไม่สามารถ  เลี้ยงดูผู้คนในโลกได้   เป็นไปได้อย่างไรภาพเด็กผอมพุงโลหิวโหยเหล่านั้นยังคงเป็นข่าวอยู่   ขณะที่หลายๆประเทศสามารถผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหารได้เกินความต้องการจนไม่รู้จะทำอย่างไรกับสิ่งเหล่านั้น?

พระเยซูทรงทราบว่าความอดอยากจะยังคงมีอยู่   การเห็นแก่ตัวเป็นนิสัยธรรมชาติของมนุษย์   รัฐบาลที่โกงกินและการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยกำลังจะยังคงมีต่อไป   และจะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆในวาระสุดท้ายของโลก   ปัจจัยต่างๆเหล่านี้จะยิ่งทำให้ความอดอยากนี้พบกับความพินาศ

แล้วแผ่นดินไหวล่ะ  ลองดูที่สถิติการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ๆที่เกิดขี้นนับเป็นศตวรรษต่อศตวรรษตาม World Almanac of 1999   จะเห็นว่ายุคคริสตชนมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ๆเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   ในศตวรรษที่ 18   เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อย่างน้อย 6 ครั้ง   ในศตวรรษที่19   เกิดขึ้นอย่างน้อย 7 ครั้ง   และมากกว่า100ครั้งในศตวรรษที่ 20   จากข้ออ้างอิงที่กล่าวข้างต้นแสดงว่าเราเข้าใกล้ยุคนี้มากขึ้นทุกที   ตัวเลขเหล่านี้ยืนยันถึงคำพยากรณ์ของพระเยซู

การสั่นบนโลกของเราไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น   อาร์มีเนีย   อินเดีย   เม็กซิโก   ซานฟรานซิสโก   ลอสแองเจลลีส   ตรุกี   กรีก   ไต้หวัน.....มีรายชื่อเมืองต่างๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ   ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นนี้กำลังจะถึงจุด   “อาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาทุกทีๆ!”

แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นที่นี่อีกกี่ครั้งในศตวรรษที่ 21   และจะเกิดขึ้นที่ไหน?   ในศตวรรษที่ 21 ของเราจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นมากมายนับเป็นร้อยๆครั้งเชียวรึ....เอ๊ะหรือ...กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวงกำลังเสด็จมา?

หมายสำคัญที่ 3 — การสะสมความมั่งคั่ง


อะไรคือความหมายของความจริงที่ว่า   ความมั่งคั่งเหมือนหลุดไปอยู่ในมือคนจำนวนน้อยลงและน้อยลงทุกที   ขณะที่ความยากจนขยับเข้ามาฝูงชนมากขึ้นและมากขึ้นไปเรื่อยๆ?

ท่านสะสมสมบัติไว้สำหรับวาระสุดท้าย
— ยากอบ  5:3
ถึงแม้ว่าความเข้าใจด้านเศรษฐกิจของเราทั้งหมดที่รู้ๆกัน   และยอดมวลรวมผลผลิตแห่งชาติทางตะวันตก จะเป็นตัวเลขที่น่าพอใจน่าตื้นตันใจก็ตาม   คนรวยก็ยังคงรวยขึ้นๆขณะที่คนจนก็ยังจนลงๆ   ในยุคนี้ทศวรรษ 90   มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนพันธบัตรหุ้นกู้ด้อยค่ากันอย่างเพลิดเพลินจริงๆ   การชำระหนี้ด้วยพันธบัตรหรือหุ้นกู้เป็นธุรกรรมระหว่างบุคคลซื้อๆขายๆกับบริษัทเหมือนการซื้อขายรถมือสองยังไงยังงั้น   ผลที่ตามมาก็คือปริมาณเงินที่มากมายอย่างไม่น่าเชื่อของ   “ทรัพย์สมบัติที่กักตุนไว้”  เป็นของคนเพียงไม่กี่คน   ขณะที่โรงงานปิดตัวลงเป็นแถบ   มาตรการการลดจำนวนพนักงานในบริษัทต่างๆเกิดขึ้นเป็นว่าเล่น   ทรัพย์สมบัติมหาศาลหลายๆล้านเหรียญสหรัฐเกิดจากการซื้อขายพันธบัตรเพียงสองสามครั้งเท่านั้น   และนี่คือหมายสำคัญอีกอันที่บอกเราว่า   “การเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว”   (ยากอบ 5:8)   โลกกำลังจะวิ่งเข้าหาการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูอย่างรวดเร็ว

หมายสำคัญที่ 4 — ความวุ่นวายของพลเมือง
ทำไมเกิดความไม่พอใจและวุ่นวายกันจังในหมู่พนักงาน   แม้มีการนำวิทยาการชั้นสูงเข้ามาใช้และมีการกักตุนความมั่งคั่งไว้แล้วก็ตาม?

นี่แน่ะ!   ค่าจ้างของคนเหล่านั้นที่เกี่ยวข้าวในนาของพวกท่าน ที่ท่านฉ้อโกงไว้นั้นก็ฟ้องร้องขึ้น   และเสียงร้องทุกข์ของคนงานเหล่านั้นที่เกี่ยวข้าว ก็ดังไปถึงพระกรรณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจอมทัพแล้ว   ท่านทั้งหลายก็ต้องอดทนอย่างนั้น   จงทำใจให้ดีไว้   เพราะการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว
— ยากอบ 5:4, 8
หลังจากที่ทำนายถึงการสุมกองความมั่งคั่งเข้าไปเรื่อยๆจนหาที่สุดมิได้ในยุคของเรา   ยากอบยังทำนายต่ออีกว่า   ความวุ่นวายของพลเมืองเกิดจากพนักงานที่ไม่พอใจ    จนเกิดความตึงเครียดระหว่าง   “คนมี”   กับ   คนไม่มี”   เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ   ริ้วรอยลางร้ายแห่งสภาพความสับสนวุ่นวายนี้เกิดขึ้นเฉพาะใต้พื้นผิวเมืองใหญ่ๆของโลกเท่านั้น   ยากอบชี้ว่าทัศนคติเช่นนี้เป็นหมายสำคัญอีกอันหนึ่งที่ว่า   “การเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเข้ามาใกล้แล้ว

หมายสำคัญที่ 5ศีลธรรมที่เสื่อมถอย

เหตุใดเส้นใยแห่งศีลธรรมในสังคมจึงขาดกระเซ็นกระสายอย่างนี้?


แต่จงเข้าใจข้อนี้   คือวาระสุดท้ายนั้นจะเป็นเวลาที่น่ากลัว เพราะผู้คนจะเห็นแก่ตัว   รักเงินทอง   โอ้อวด   หยิ่งยโส   ชอบดูหมิ่น   ไม่เชื่อฟังพ่อแม่   อกตัญญู   ชั่วร้าย   ไร้มนุษยธรรม   ไม่ให้อภัยกัน   ใส่ร้ายกัน   ไม่ยับยั้งชั่งใจ   ดุร้าย   เกลียดชังความดี   ทรยศ   มุทะลุ โอหัง   รักความสนุกมากกว่ารักพระเจ้า   ยึดถือพระเจ้าแต่เพียงเปลือกนอก   แต่ปฏิเสธฤทธิ์เดชของทางนั้น   จงอย่าเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้น ในขณะที่คนชั่วและคนเจ้าเล่ห์จะเลวลงกว่าเก่า อีกทั้งยังล่อลวงคนอื่นและถูกคนอื่นล่อลวงด้วย
— ทิโมธี ฉบับที่สอง 3:1-5, 13
จะมีใครสามารถอธิบายเหตุการณ์ในโลกของเราได้ถูกต้องแม่นยำไปมากกว่านี้อีกไหม?   ลองส่องกล้องไปตามที่ต่างๆในยุคปัจจุบันนี้สิแล้วท่านจะเห็นภาพวัตถุนิยมที่หรูหราฟุ่มเฟือย   ท่านจะเห็นภาพการกระทำทารุณและการลวนลามเด็กที่ระบาดอย่างน่าสะพรึงกลัว   ท่านจะเห็นภาพหนุ่มสาวนับไม่ถ้วนควบคุมตนเองไม่ได้   เด็กแรกรุ่นฆ่าและทำร้ายคนอื่นให้พิการอย่างไม่เลือกหน้า   ท่านสามารถกดปุ่มถ่ายรูปได้ชนิดภาพต่อภาพอย่างไม่หยุด   ท่านจะเห็นคนรักสนุก   ผู้ซึ่งพยายามสร้างความศรัทธาอันแรงกล้าของการประพฤติตัวหลงระเริงและทำตามใจตัวเอง ที่แปลความหมายให้เห็นเป็น   “การมีเหตุผลดีและดูเป็นเรื่องธรรมดา”   ความอิสระเสรีที่ไม่ได้รับการห้ามปรามจะครอบงำจิตใจของเราอันจะนำมาซึ่ง   “เวลาที่น่าสะพรึงกลัวในวาระสุดท้ายจริงๆ   ภาพถ่ายเหล่านี้ทั้งหมดถูกแสดงไว้ในห้องแสดงภาพเพื่อประกาศออกมาดังๆว่า   การเสด็จกลับมาของพระเยซูใกล้เข้ามามากแล้ว

หมายสำคัญที่ 6 — การขยายวงเรื่องความลี้ลับเหนือธรรมชาติ
ในยุคทางโลกของเรา   การสนใจเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ระเบิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นจะเป็นย่างไร?


คนนอกกฎหมายนั้น จะมาโดยการดลบันดาลของซาตาน   พร้อมกับการอิทธิฤทธิ์ทุกอย่าง ทั้งหมายสำคัญ   และการอัศจรรย์จอมปลอม
— เธสะโลนิกา ฉบับที่สอง 2:9
เพราะว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จ และผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จหลายคนปรากฏขึ้น   แสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่   เพื่อล่อลวงแม้พวกที่พระเจ้าทรงเลือกถ้าเป็นได้
— มัทธิว  24:24
ข้อความเหล่านี้ทำนายว่าใกล้จะถึงวาระสุดท้ายแล้ว   การทำงานของพวกปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์ซึ่งสำแดงสิ่งมหัศจรรย์และหมายสำคัญต่างๆนั้นเป็นสิ่งจอมปลอม   ภาพจอมปลอมเหล่านี้ตรงข้ามกับความจริงที่ผู้สังเกตการณ์ทั้งหลายได้พยากรณ์ไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งกล่าวไว้ว่าความเป็นเหตุผลจะชนะไสยศาสตร์ที่งมงาย   จากวิธีการคิดทางวิทยาศาสตร์   เราได้ถูกบอกว่ายังไงๆวิทยาศาสตร์ก็อยู่เหนือความจริงทางศาสนา   วิทยาศาสตร์จะทำให้สิ่งเหนือธรรมชาติเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ล้าสมัย

แต่อะไรล่ะที่เราค้นพบขณะที่เราอยู่ใกล้ศตวรรษที่21? ในเวลาเดียวกันประชาชนได้ติดอยู่กับเครื่องเล่นเทปคลาสเซ็ทวีดีโอและไพ่ที่ทำนายอนาคต   นที่ได้รับการศึกษา   คนที่คิดแบบวิทยาศาสตร์   คนที่รักความก้าวหน้าก็ยังคงเชื่อเรื่องผีสางเทวดาอยู่ดี

เรื่องลี้ลับไม่ได้ถูกทำให้หดหายไป   แต่กลับมีการโฆษณากันอย่างกว้างขวาง   พวกนอกรีตเป็นเพียงวิธีการใช้ชีวิตอีกทางเลือกหนึ่งเท่านั้น   พวกพ่อมดหมอผีและพวกใช้เวทมนตร์จะปรากฏในรายการวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ   คนในยุคใหม่ที่ขายลูกแก้ววิเศษ   ที่ติดต่อกับดวงวิญญาณที่ตายแล้วมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง   หมายสำคัญและสิ่งอัศจรรย์จอมปลอมได้เกิดขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว   สิ่งทั้งหมดนี้ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าประวัติศาสตร์กำลังขยับเข้ามาใกล้จุดสำคัญที่สุดแล้ว   ซึ่งมีเพียงแต่พระเยซูเท่านั้นที่ทรงทำนายไว้ว่า   เรากำลังมีชีวิตอยู่ในช่วงของ   “การเสด็จกลับมาของบุตรมนุษย์ (มัทธิว 24:27)

หมายสำคัญที่ 7 — โลกที่ตื่นตัว
การฟื้นตื่นตัวของแอฟริกา   ตะวันออกกลาง   ยุโรปตะวันออกและชนชาติต่างๆของตะวันออกไกลนั้น   หมายความว่าอย่างไร?


“‘ให้บรรดาประชาชาติตื่นตัว   และขึ้นมายังหุบเขาเยโฮชาฟัท   เพราะที่นั่นเราจะนั่งพิพากษาบรรดาประชาชาติทั้งสิ้น ที่อยู่ล้อมรอบ   จงเอาเคียวเกี่ยวเถิด   เพราะถึงฤดูเกี่ยวแล้ว....  เพราะว่าความอธรรมของเขาทั้งหลายมากมายนัก!’  มวลชน   มวลชนในหุบเขาแห่งการพิพากษาเพราะวันแห่งพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว   ในหุบเขาแห่งการพิพากษา
— โยเอล 3:12-14
ทุกวันนี้เอเซียและแอฟริกาถูกปลุกให้ตื่นจากหลับ   เขาตระหนักถึงความแข็งแกร่งของเขาและกำลังแสวงหาความรุ่งโรจน์ของเขาเพื่อขอเป็นเสี้ยวหนึ่งของเศรษฐกิจโลก   ยุโรปตะวันออกกำลังเป็นที่ต้องการ  ประเทศซึ่งเคยรวมอยู่ในสหภาพโซเวียตพยายามแย่งความเป็นใหญ่เช่นกัน   ประเทศในตะวันออกกลางเรืองอำนาจด้วยรายได้จากการค้าน้ำมัน   ทำให้มีอิทธิพลมากขึ้นเป็นเงาตามตัว   หลังจากที่กลุ่มศาสนาหรือกลุ่มชนชาติกลุ่มใหม่ขึ้นครองความเป็นใหญ่แทนกลุ่มเก่า  แผนดำเนินงานของกลุ่มเก่าก็ดูเหมือนจะล้าสมัยไปเกือบทันทีที่พิมพ์เสร็จ   บางทีเราอาจเป็นประจักษ์พยานให้กับชนชาติที่ถูกปลุกให้ตื่นที่แพร่ระบาดที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาทั้งหมด   “เพราะว่าวันของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว
หมายสำคัญที่ 8 — แผนเพื่อสันติภาพและการเตรียมทำสงคราม
ทำไมเดี๋ยวเราก็พูดถึงสันติภาพเดี๋ยวก็พูดถึงสงคราม?   พระเยซูทรงตรัสถึงวาระสุดท้ายก่อนการเสด็จมาของพระองค์ว่า
ท่านจะได้ยินเสียงสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย   เพราะว่าทุกสิ่งจะต้องเกิดขึ้น   แต่ที่สุดปลายยุคยังมาไม่ถึง   เพราะว่า   ประชาชาติกับประชาชาติ   และอาณาจักรกับอาณาจักรจะต่อสู้กัน 
— มัทธิว 24:6, 7

 

ก่อนถึงศตวรรษที่ยี่สิบ   สงครามไม่เคยเกิดขึ้นทั่วโลกจริงๆ   แต่ในศตวรรษนี้ชาติสำคัญเกือบทั่วโลกได้จับมือร่วมกับประเทศมหาอำนาจ ซึ่งแยกออกเป็นสองขั้วที่ขัดแย้งกัน   และตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมาเรารู้ว่า   คนที่กดปุ่มก่อนก็คือคนที่สามารถเปลี่ยนโลกของเรา ให้กลายเป็นซากปรักหักพังก่อนนั่นเอง   ไม่แปลกใจเลยที่พระคัมภีร์พูดว่าพระเจ้าทรง  “ทำลายพวกที่ทำลายแผ่นดินโลก”   (วิวรณ์ 11:18)

เราอาศัยอยู่บนโลกที่แปลกประหลาด   ทุกๆคนตกลงกันเราจะร่วมกันสร้างสันติภาพ   เราพูดถึงสันติวิธี   เราพูดถึงองค์กรนานาชาติที่อุทิศตนเพื่อสร้างสันติภาพ   แต่ทุกๆคนก็ยังตกอยู่ในความขัดแย้งที่ต้องแก้ปัญหาด้วยกำลัง   ความแค้นที่สะสมมาหลายศตวรรษ   ความเดือดดาลที่นำไปสู่ความขัดแย้ง   ชายแดนที่รบกันด้วยกองทหารปืนใหญ่   การโจมตีอย่างฉับพลันของผู้ก่อการร้ายทำให้เกิด   “การโจมตีอย่างเฉียบขาดทางอากาศ”   และ   การโจมตีอย่างเฉียบขาดทางอากาศ”   ก็ยิ่งทำให้เกิดการจู่โจมอย่างฉับพลันของผู้ก่อการร้าย   ผู้เผยพระวจนะมีคาห์และโยเอลได้ทำนายไว้ว่า   เวลานั้นชนชาติต่างๆจะคุยถึงความต้องการสันติภาพ   (มีคาห์ 4:1-3)   และในขณะเดียวกันความไม่เชื่อมั่นเพื่อนบ้านก็บังคับให้เขาต้องเตรียมตัวเพื่อทำสงครามเช่นกัน   (โยเอล 3:9-13)

นานมาแล้วที่พระคัมภีร์ได้ให้ภาพสงครามที่ต้องการสันติภาพในยุคของเรา   และประกาศว่าสันติภาพที่ถาวรจะครองโลกได้ก็ต่อเมื่อพระเยซูเสด็จมา

หมายสำคัญที่ 9 — ความก้าวหน้าสมัยใหม่
ประวัติศาสตร์มนุษย์เกิดขึ้นมาหลายชั่วศตวรรษ   แล้วทำไมอยู่ดีๆมนุษย์ถึงมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมายขนาดนั้นอย่างกะทันหันขึ้นมา?   ทำไมการขนส่งและการสื่อสารจึงทำให้โลกใกล้กันขนาดนี้?

จนถึงวาระสุดท้าย   คนเป็นอันมากจะวิ่งไปวิ่งมา และความรู้จะทวีขึ้น
— ดาเนียล 12:4
หมายสำคัญแปดอย่างก่อนหน้านี้ให้เครื่องหมายไว้ว่า   การเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ใกล้เข้ามาแล้ว   และเริ่มเป็นจริงตามคำพยากรณ์ในยุคคริสตชนช่วงต้นๆ   หมายสำคัญเหล่านี้เข้มข้นขึ้น   ซับซ้อนขึ้น   และเสียงดังขึ้นเป็นลำดับก่อนจะเข้าใกล้จุดสำคัญที่สุดในยุคของเรา คำพยากรณ์ของดาเนียลเป็นเอกลักษณ์ที่อ้างถึงเฉพาะในยุคของเราจนถึง   “วาระสุดท้าย

ดาเนียลชี้ว่าการพยากรณ์ของเขาจะมีมากขึ้นใน   “วาระสุดท้าย”   แต่ภาษาที่ใช้ในการทำนายนี้ ดูเหมือนจะไปที่ยุคข้อมูลข่าวสารผ่านคอมพิวเตอร์   เราจะได้รับข้อมูลข่าวสารทุกอย่างเร็วมากเหมือนสายฟ้าแลบ   ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนต้องใช้เวลาถึงสองสามปีกว่าจะได้ข้อมูลเหล่านั้น   ผู้วิจารณ์คนหนึ่งพูดว่า   “การเปลี่ยนแปลงในช่วงห้าสิบปีที่ผ่านมา ยังเปลี่ยนแปลงมากกว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงสองพันปีก่อนเสียอีก   เราทำอะไรต่อมิอะไรหลายพันอย่างที่ เอช.จี.เวลส์และจูลส์ เวิร์นไม่เคยคิดฝันในจินตนาการสูงสุดของเขา

คนเป็นอันมากจะวิ่งไปวิ่งมา และความรู้จะทวีขึ้น”   ก่อนปี 1850   คนเราเดินทางด้วยม้าและรถม้าก็เรียกว่าเป็นพาหนะที่ดีมากแล้วในยุคเริ่มต้นนั้น   แต่เดี๋ยวนี้เราทำลายกำแพงเสียงและขยายโลกทุกด้านจากเครื่องบินคอนคอร์ทไปจนกระทั่งกระสวยอวกาศ

 การเดินทางที่เพิ่มมากขึ้นและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆเกิดขึ้นเร็วเหมือนน้ำท่วมในปัจจุบัน   ทำให้เหมือนในคำพยากรณ์ของ  ดาเนียล12:4   และให้หลักฐานที่ชัดขึ้นว่าเรากำลังอยู่ใน   “วาระสุดท้าย

หมายสำคัญที่ 10 — มีการประกาศข่าวประเสริฐไปทั่วโลก
พระเยซูทรงทำนายว่าแค่ก่อนที่พระองค์เสด็จมา   จะมีการประกาศข่าวประเสริฐของพระองค์ไปทั่วโลก
 ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้านี้จะถูกประกาศไปทั่วโลก   ให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ   แล้วที่สุดปลายจะมาถึง
— มัทธิว 24:14
มิชชั่นนารีชาวคริสเตียนมีการเคลื่อนไหวตัวอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์   แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสองสามปีหลังนั้น   เป็นสิ่งซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นเวลาหลายสิบปีที่เกือบครึ่งโลกถูกล็อคอยู่หลังม่านเหล็ก   มีการปิดบังข่าวสารข้อมูลใหม่ๆ   ระบบการปกครองของพวกที่ชอบข่มเหงผู้อื่น   พวกไม่เชื่อพระเจ้าได้บีบคั้นให้หยุดการให้คำพยานของชาวคริสเตียน


แต่แล้วในปี 1989   เพียงเกือบชั่วข้ามคืนดูเหมือนยุโรปตะวันออก สามารถเคลื่อนตัวหนีกฎเหล็กลัทธิคอมมิวนิสต์ได้   ผู้เผด็จการต้องหนีออกจากประเทศของตน   กองกำลังตำรวจสายลับต้องหลบหาที่ซ่อนตัว   กำแพงเบอร์ลินถูกถล่มแล้ว   จักรวรรดิ์โซเวียตที่ยิ่งใหญ่แตกเสียแล้ว และเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไม่น่าเชื่อ   ทันใดนั้นเองครึ่งหนึ่งของโลกเราได้เปิดอ้อมแขน รับฟังข่าวประเสริฐนับตั้งแต่นั้นมา

เราเห็นการปฏิวัติจิตวิญญาณของสหภาพโซเวียตในสมัยก่อน   ซึ่งก็เหมือนกับการที่ข่าวประเสริฐเข้าไปแทรก และเติมเต็มที่ว่างมากมายในจิตวิญญาณ   และเป็นเช่นนี้จริงๆในส่วนต่างๆของโลกด้วย   มุสลิมเคยปิดกั้นตัวเองไม่รับข่าวประเสริฐของพระคริสต์มาเป็นเวลาหลายศตวรรษ   แต่เดี๋ยวนี้มีมุสลิมหลายคนหันเข้าหาพระคริสต์และยินดีต้อนรับความหวังการเสด็จมาเป็นครั้งที่สองของพระองค์

ข่าวประเสริฐกำลังไป   “ทั่วโลก”   อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจริงๆ    ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้เกือบทุกคนและทุกชาติสามารถรับข้อมูลข่าวสารได้พร้อมกัน   เทคนิคการแปลภาษาต่างๆทำให้คนทุกภาษาท้องถิ่นสามารถเข้าใจการกระจายเสียง เป็นภาษาท้องถิ่นของตนได้ในเวลาเดียวกัน   เรากำลังอยู่ในช่วงเวลานั้นๆที่พระเยซูทรงประกาศว่า   ข่าวประเสริฐจะกระจายไปทั่วโลก”   และแล้ว   “วาระสุดท้ายจะมาถึง

พระเยซูจะเสด็จมาในไม่ช้านั้นคือแค่ไหน?


ในรุ่นเราจะเห็นและกำลังจะเห็นหมายสำคัญที่ยิ่งใหญ่สิบอย่างเหล่านี้ ของคำพยากรณ์ ที่จะเป็นจริงต่อหน้าต่อตาของเรา

หลังจากอธิบายเหตุการณ์ต่างๆที่บอกถึงเวลาก่อนการเสด็จมาครั้งที่สอง ของพระองค์   พระเยซูทรงสรุปหมายสำคัญของพระองค์โดยทรงตรัสว่า

เราบอกความจริงกับท่านว่า   คนในยุคนี้จะไม่ล่วงลับไปก่อนทุกสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น
— มัทธิว 24:34
          การสรุปแบบนั้นเป็นไปอย่างชัดเจน   ยุคที่เกิดหมายสำคัญเหล่านี้ตามคำพยากรณ์ เราจะเห็นพระเยซูเสด็จมาที่โลกเป็นครั้งที่สอง   นั่นไม่ได้เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา จนกว่าพระองค์จะทรงกวาดล้างบาปและความทุกข์ทรมานออกไป   พระเยซูจะเสด็จมาและจัดตั้งอาณาจักรนิรันดร์ของพระองค์
พระเยซูทรงตรัสอย่างไรเกี่ยวกับเวลาแน่นอนที่พระองค์จะเสด็จมา?

แต่ไม่มีใครรู้เรื่องวันหรือเวลาแม้แต่บรรดาฑูตแห่งฟ้าสวรรค์หรือพระบุตร   มีแต่พระบิดาองค์เดียว
— มัทธิว 24:36
พระคริสต์ทรงให้คำเตือนที่สำคัญๆอะไรแก่เรา?
เพราะเหตุนี้พวกท่านจงเตรียมพร้อม   เพราะในเวลาที่ไม่คิดไม่ฝันนั้น   บุตรมนุษย์จะเสด็จมา
— มัทธิว 24:44
พระเยซูทรงเป็นความหวังเดียวของโลก
ในปัจจุบันคนเราจะสำนึกว่าโลกของเราวิกฤตแล้ว   บางคนพยายามหาทางป้องกันอย่างสิ้นหวัง   แต่วิทยาการชั้นสูงของเรา   ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์   และองค์กรนานาชาติทั้งหลาย ยังคงง่วนคิดแต่ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกในโลกเรา   ความขัดแย้งภายในกลุ่มที่มีขนบธรรมเนียมเดียวกัน และกลุ่มหัวรุนแรงที่เชื่อต่างจากคนส่วนใหญ่ จะคอยขจัดความเป็นเหตุผลและค่านิยมทิ้งเสีย   อย่างไรก็ตามเหนือเสียงอึกทึกครึกโครมเหล่านี้   พระเยซูทรงประกาศด้วยความสงบและกล้าหาญว่า   “เราเป็นทางนั้น!”   (ยอห์น14:6)    และพระองค์ทรงสัญญาว่า “เราจะกลับมาอีก!”   (ยอห์นพระวจนะที่ 3)

พระคริสต์ทรงเป็นสิ่งสุดท้าย   ทรงเป็นความหวังที่ดีที่สุดในโลกเรา   เพราะมีเพียงพระองค์เท่านั้นที่สามารถจัดการกับทุกสิ่ง   นั่นคือการทำลายล้างความบาป   พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ที่เนินเขาหัวกะโหลกเพื่อทรงทำสิ่งที่เป็นไปได้คือ   การเอาชนะความบาปและทรงปลดปล่อยคนทั้งหลาย ที่ยอมรับการไถ่บาปจากพระองค์

ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมาร   เพราะว่ามารก็ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก   พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้   คือเพื่อทรงทำลายกิจการของมาร
— ยอห์น ฉบับที่หนึ่ง 3:8
พระผู้ช่วยให้รอดจากบาปของเราทรงสร้างทางออกให้กับโลกที่แตกละเอียด   โดยทรงเสียสละเนื้อหนังมังสาและพระโลหิตของพระองค์ สักวันหนึ่งพระเยซูองค์เดียวกันนี้จะทรงรักษาความเจ็บป่วยทั้งหมดของโลกด้วยการทำลายความบาป   ขอให้ท่านทูลขอและวิงวอนพระองค์ในตอนนี้เพื่อลบความผิดบาปออกจากชีวิตของท่าน   ท่านไม่ต้องรอให้ถึงการเสด็จมาเป็นครั้งที่สองของพระองค์หรอก   เพื่อทรงปลดปล่อยท่านให้พ้นจากความผิด   จากความกังวลและจากนิสัยที่ไม่ดี   พระเยซูทรงเต็มพระทัยทีเดียวที่จะมอบสิ่งที่เรียกว่าสันติสุขของพระองค์ให้แก่ท่านในเวลานี้

ขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งชื่อเจนเข้าร่วมประชุมนมัสการพระเจ้า   เธอรู้สึกแปลกๆเมื่อได้ยินข่าวประเสริฐเช่นนั้น   ขณะที่เธอได้ยินเรื่องราวพระผู้ช่วยให้รอดจะเสด็จมาในไม่ช้า   ทุกๆส่วนทั้งหมดของร่างกายเริ่มติดอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน   เจนรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ   ในที่สุดเธอรู้แล้วว่าเธอกำลังมองหาความรัก   ความสุข   และสันติสุขในวิธีที่ผิดหมด   แท้จริงแล้วพระเยซูทรงเป็นคำตอบต่างหาก

ในวันต่อมาเมื่อผู้เผยแพร่ศาสนาและเพื่อนร่วมงานไปเยี่ยมเธอ   เจนเล่าเรื่องขมขื่นและชีวิตที่แตกสลายจนละเอียดของเธอ   เธอจมปลักอยู่ในเหวลึกของการดื่มเหล้าและหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเป็นโสเภณี   หลังจากอธิบายปัญหาชีวิตของเธอ   เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วพูดว่า   “ท่านทรงตรัสกับฉันจริงๆเมื่อคืนก่อน

แต่เสียงนั้นที่เข้าไปสัมผัสถึงหัวใจของเธอคือเสียงของพระเจ้า   พระองค์ทรงกำลังตรัสอย่างนิ่มนวล   เจนจึงตัดสินใจเชิญพระคริสต์เข้ามาสถิตในหัวใจของเธอ   เป็นพระผู้ช่วยให้รอดจากบาปของเธอ   องค์พระผู้เป็นเจ้าของเธอ   และเธอผูกติดอยู่กับความหวังของการเสด็จมาในไม่ช้าของพระองค์


ในหลายสัปดาห์ต่อมา   เจนเริ่มสังเกตว่าเธอไม่มีความกลัว และเธอรู้สึกปลอดภัยมั่นคงเธอได้รับการปลดปล่อย จากการดื่มเหล้าอย่างเด็ดขาดแล้ว   เธอใช้เวลาเพื่อสนทนากับพระเยซูแทนการดื่มเหล้าของเธอ   พระองค์ทรงเริ่มทำให้เธอหลุดจากสภาพการณ์ที่บังคับให้ชีวิตเธออับปางลง

เจนทำหลายสิ่งมากมายที่เธอไม่ได้ภูมิใจเลย   แต่ด้วยพระเกียรติคุณของพระคริสต์และการอภัยบาป พิสูจน์ได้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่อยู่เหนือความละอายของเธอ   เหตุการณ์ผู้ร้ายบนไม้กางเขนข้างๆพระเยซูมีความหมายต่อเธอมาก   ในวาระสุดท้ายของผู้ร้ายคนนั้น   ชั่วโมงแห่งความสิ้นหวังทำให้เขากลับกลายเป็นผู้ร้ายไร้เดียงสา ที่ได้รับการทรมานจากการตรึงกางเขน   เขาทูลถามพระองค์ว่า   “พระเยซู   ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์ เสด็จเข้าไปในแผ่นดินของพระองค์”   (ลูกา 23:42)
         
พระเยซูทรงตอบเขาทันทีโดยทรงสัญญากับผู้ร้ายคนนั้นว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม (พระวจนะที่ 43)

พระเยซูองค์เดียวกันนี้ทรงให้อภัยเจนด้วยพระเกียรติคุณ เช่นเดียวกับผู้ร้ายที่ร้ายคนนั้น   ในเวลานี้พระองค์ทรงพร้อมช่วยท่านให้ได้รับการไถ่บาป   ได้รับการอภัยอย่างบริบูรณ์และมีสันติสุขเกิดในจิตใจท่าน   เพื่อเป็นการค้นพบสำหรับตัวท่านเองในวันนี้   ท่านสามารถที่จะอธิษฐานเหมือนผู้ร้ายที่ตายคนนั้นว่า   “พระเยซูเจ้า   ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพเจ้าเมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในในแผ่นดินของพระองค์

ข้าแต่พระบิดาบนสรวงสวรรค์   ขอบพระคุณพระองค์สำหรับความหวังที่พระเยซูจะเสด็จมาอีกครั้งในเร็วๆนี้    ในช่วงเวลาเหล่านี้เมื่อการเสด็จได้เข้ามาใกล้    ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของข้าพระองค์คือการได้อยู่กับพระองค์    ข้าพระองค์ต้องการพระฤทธานุภาพของพระองค์ในชีวิตประจำวันของข้าพระองค์    ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้เหมือนพระเยซูมากขึ้นๆเรื่อยๆทุกวัน   ในขณะที่ข้าพระองค์ทำความรู้จักกับพระองค์โดยการศึกษาพระคัมภีร์และการอธิษฐาน   ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้มีความศรัทธาเพื่อที่ว่าคนอื่นจะได้ต้องการรู้จักองค์พระเยซูคริสตเจ้า    ข้าพระองค์อธิษฐานในนามของพระเยซูคริสต์  อาเมน
__________________


ค้นพบ บทที่ 10
เร็วแค่ไหนที่พระเยซูจะเสด็จกลับมา? (คลิกที่นี่เพื่อดูเนื้อเรื่องบทที่ 10)
1. หมายสำคัญอะไรที่พระเยซูทรงให้หมู่ชนได้ทราบว่าพระองค์จะเสด็จมาและวาระสุดท้ายของโลกใกล้จะมาแล้ว?
โลกจะดีขึ้นและดีขึ้นจนกลายเป็นยูโทเปีย
การหาสันติภาพในเวลาสงครามและมีข่าวลือของสงคราม

2. การเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ได้ใกล้เข้ามามากแค่ไหนแล้ว?
มันเป็นไปไม่ได้สำหรับใครก็ตามที่มีความคิดเปราะบางเช่นนี้
หมายสำคัญต่างๆที่บอกไว้ล่วงหน้าในพระคัมภีร์บอกว่าการเสด็จมาของพระเยซูใกล้จะมาถึงมากแล้ว

3. พระคัมภีร์มีรายการหมายสำคัญที่ชี้ถึงการเสด็จมาของพระเยซู  อะไรคือหมายสำคัญทางธรรมชาติ  ลูกา 21:25-28   และ  ลูกา 21:11 & 31

4. "หมายสำคัญของการเสด็จมาของพระคริสต์อันไหนที่ท่านคิดว่าแพร่หลายที่สุดในทุกวันนี้?

5. เร็วแค่ไหนที่ท่านคิดว่าพระเยซูจะเสด็จมาทำไม?

6. หมายสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์กำลังจะเป็นความจริงในเวลาของเรา   ที่ประกาศว่าการเสด็จมาของพระคริสต์ใกล้มาถึงแล้ว   และพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อท่านเพื่อเตรียมท่านสำหรับการเสด็จมาของพระองค์   มันเป็นจุดประสงค์ที่จริงใจของท่านหรือไม่ที่จะพร้อมสำหรับการเสด็จมาของพระเยซูและนำท่านไปสวรรค์?

7. มันเป็นทางเลือก   แต่เราจะซาบซึ้งใจที่ได้คุ้นเคยกับท่านมากขึ้น   ได้โปรดบอกเราเกี่ยวกับตัวท่าน   เราจะยิ่งประทับใจหากได้ยินว่าท่านจะเริ่มศึกษาคู่มือค้นพบ นี้อย่างไร   โดยทางรายการวิทยุหรือมีบางคนเล่าให้ท่านฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้











1 ความคิดเห็น:

mahanaim กล่าวว่า...

จะเป็นเช่นนั้นแน่นอน เพราะพระคำ"คือความจริง"

แสดงความคิดเห็น