-หมายสำคัญ 10 ประการที่บอกว่าพระคริสต์จะเสด็จกลับมาในวันเวลาของเรา
-พระเยซูจะเสด็จมาเมื่อไร?
-ความหวังเดียวของโลก
พระเยซูจะเสด็จกลับมาอย่างเร็วคือเมื่อใด?
ในปี 1978 มีการค้นพบยาวิเศษทำให้มนุษย์อายุยืนยาวขึ้นสองเท่า
ในปี 1980 ตามหัวเมืองสำคัญๆทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาถือว่า การใช้เครื่องจักรกลที่มีการสันดาปเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
ในปี 1981 มอนทานาได้กลายเป็นรัฐต้องโทษแห่งแรกของอเมริกา นักโทษคดีอาชญากรรมที่ถูกตัดสินให้จำคุกถูกส่งมาที่นี่ทั้งหมด
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมปี 1983 ผู้หญิงทุกคนในเซนต์หลุยส์ผมร่วงหมด
ท่านพลาดข่าวที่น่าทึ่งเหล่านี้บ้างหรือไม่ ? บางทีอาจจะพลาด เพราะไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน แต่ทั้งหมดนี้ภาควิชาจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงได้ทำนายไว้แล้วด้วยความมั่นใจ
พวกเราส่วนใหญ่มักจะมีแรงกระตุ้นตามสัญชาติญาณที่อยากมองเข้าไปในอนาคต เราอยากรู้ว่ามีอะไรที่เลยขอบฟ้านั่น แต่การทำนายที่ถูกต้องก็ยังคงเป็นเรื่องยากมากๆที่จะเข้าใจ ซึ่งก็ยากพอๆกับที่เราทำนายว่าวันพรุ่งนี้อากาศจะเป็นอย่างไร!
อย่างไรก็ตามคำพยากรณ์ของคนบางคนก็ได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องอย่างน่าทึ่ง องค์พระเยซูคริสต์ (โดยผ่านทางพระวจนะของพระองค์) ทรงสามารถพาเราเข้าไปในอนาคต พระองค์ทรงเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือ ในบทนี้เราจะพิจารณาถึงสิ่งที่พระองค์ทรงตรัสไว้เกี่ยวกับการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระองค์ และสุดท้ายใครเล่าที่จะล่วงรู้วาระสุดท้ายของโลกได้มากไปกว่าพระองค์ผู้ทรงสร้างโลกในปฐมกาล?
หมายสำคัญต่างๆที่บอกว่าพระคริสต์จะเสด็จกลับมาในวันเวลาของเรา
หลังจากที่พระเยซูทรงให้ความมั่นใจ แก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาในโลก เป็นครั้งที่สอง (ยอห์น 14:1-3) พวกสาวกถามพระองค์ว่าอะไร?
“สาวกกราบทูลว่า ‘ขอโปรดให้พวกข้าพระองค์ทราบว่า เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ และอะไรเป็นหมายสำคัญว่า พระองค์จะเสด็จมาและยุคเก่าจะสิ้นสุดลง?’”
— มัทธิว 24:3 (หากมิได้ทำเครื่องหมายใดไว้ บทความในพระคัมภีร์ทั้งหมดในบท ค้นพบ นี้มาจากพระคัมภีร์สากลฉบับใหม่ [เอ็นไอวี] แปลไทยจาก “พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิม ฉบับ 1971 (ย่อขนาดปี1998), ภาคพันธสัญญาใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2002 สงวนลิขสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย ใช้โดยได้รับอนุญาต”)
พระเยซูทรงตอบชัดเจนและแน่นอนในพระวจนะมัทธิวบทที่ 24 และลูกาบทที่ 21 พระองค์ทรงให้ “หมายสำคัญ” ต่างๆหรือหลักฐานต่างๆไว้ด้วยพระองค์เอง ทำให้รู้ว่าการเสด็จของพระองค์ใกล้มาถึงแล้ว คำพยากรณ์อื่นๆในพระคัมภีร์ได้ต่อเติมภาพให้เห็นรายละเอียดเหตุการณ์ต่างๆของโลก ซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนการเสด็จกลับมาของพระคริสต์ เหมือนอย่างที่เราเห็นคำพยากรณ์เหล่านี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงต่อหน้าต่อตาทุกคู่ของเรา คำพยากรณ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการเสด็จกลับมายังโลกของพระคริสต์อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง
พวกเราลองดูหมายสำคัญสิบประการของคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์ ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างทางที่จะไปสวรรค์ แล้วลองดูคำถามที่นักเดินทางในโลกสมัยใหม่อาจจะถามขึ้น ขณะที่เขาอ่านอยู่ในตอนนี้
หมายสำคัญที่ 1 — ความทุกข์ร้อน! ความน่ากลัว! ความฉงนสนเท่ห์!
ท่านจะอธิบายยุควิทยาการสมัยใหม่ว่าอย่างไร ที่คอยปรนเปรอความสุขให้กับมนุษย์มากขึ้นๆเรื่อยๆ แต่ยังคงภาพครอบครัวที่แตกแยก และภาพความรุนแรงที่เกิดจากละแวกเพื่อนบ้านให้เห็น? พระเยซูทรงทำนายชีวิตสมัยใหม่ของเราไว้ตั้งแต่หนึ่งพันเก้าร้อยกว่าปีก่อน ซึ่งตรงกับชีวิตสมัยใหม่ของเราที่เกิดขึ้นจริงๆในตอนนี้ ช่างแม่นยำเหมือนเหตุการณ์ที่มาจากข่าวรอบดึกยังไงยังงั้นเลย
“จะมีหมายสำคัญที่ดวงอาทิตย์ ที่ดวงจันทร์ และที่ดวงดาวทั้งหลาย และบนแผ่นดินนั้น ชาติต่างๆก็จะมีความทุกข์ร้อน และความฉงนสนเท่ห์ เพราะเสียงกึกก้องของทะเลและคลื่น มนุษย์จะสลบไสลไปเพราะความกลัว เนื่องจากสังหรณ์ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในโลก เพราะว่าบรรดาสิ่งที่มีฤทธานุภาพในท้องฟ้าจะสะเทือนสะท้าน และเมื่อนั้นพวกเขาจะเห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาในเมฆ ด้วยฤทธานุภาพและพระรัศมีอันยิ่งใหญ่ เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้เริ่มจะเกิดขึ้นนั้น จงลุกขึ้นยืนและผงกศีรษะขึ้น เพราะว่าการไถ่ตัวพวกท่านใกล้จะมาถึง”
— ลูกา 21:25-28
ไม่มีคำอธิบายใดจะถูกต้องไปมากกว่านี้อีกแล้ว สำหรับโลกปัจจุบันที่เขียนไว้ว่า “มนุษย์จะล้มลงเพราะการก่อการร้าย และหวาดหวั่นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นบนโลก” เด็กรุ่นนี้โตมากับร่างเงากองอาวุธยุทธปกรณ์ที่กักตุนไว้อย่างดีเพื่อทำลายโลกทั้งใบ ความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้เรื่องในอดีตกลายเป็นเรื่องเล็กกระจ้อยร่อยไปโดยปริยาย “หากผู้ก่อการร้ายใช้หัวรบขีปนาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมาต่อสู้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?”
แต่พระเยซูทรงมอบหลักแห่งความหวังแก่เราเพื่อชีวิตในยุคแห่งความหายนะนี้ วิกฤตแห่งความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปัจจุบัน “ความทุกข์ร้อนและความฉงนสนเท่ห์” เป็นสิ่งเสริมให้เห็นความจริงที่ว่า การเสด็จมาของพระคริสต์ “ใกล้แค่เอื้อม” แล้วจริงๆ
ปัจจุบันคนเราชอบร้องครวญครางอย่างหมดกำลังใจอยู่บ่อยๆ “ดูเถิด โลกของเรากลายเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย!” แต่ผู้ที่ศึกษาคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์สามารถอุทานด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังว่า “ดูเถิด พระผู้ช่วย กำลังจะเสด็จมาในโลกของเรา”
หมายสำคัญที่ 2 — ความหายนะของโลก
ภัยธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไรกับวาระสุดท้ายของโลก?
ทั้งจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ การกันดารอาหาร และโรคระบาด ในที่ต่างๆ และจะเกิดความน่าสะพรึงกลัว และหมายสำคัญใหญ่ๆจากฟ้าสวรรค์ เช่นนั้นแหละเมื่อท่านทั้งหลายเห็นเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ก็ให้รู้ว่าแผ่นดินของพระเจ้าใกล้จะมาถึงแล้ว”
— ลูกา 21:11, 31
ผู้ที่ไม่เชื่ออาจจะพูดว่า “แล้วทำไม? ความอดอยากและแผ่นดินไหวจึงเกิดขึ้นเสมอๆ” แต่ลองคิดถึงความอดอยากสักนิดเถิด มันไม่น่าประหลาดใจเลยหรือ ที่โลกสามารถส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ได้ แต่ ไม่สามารถ เลี้ยงดูผู้คนในโลกได้ เป็นไปได้อย่างไรภาพเด็กผอมพุงโลหิวโหยเหล่านั้นยังคงเป็นข่าวอยู่ ขณะที่หลายๆประเทศสามารถผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหารได้เกินความต้องการจนไม่รู้จะทำอย่างไรกับสิ่งเหล่านั้น?
พระเยซูทรงทราบว่าความอดอยากจะยังคงมีอยู่ การเห็นแก่ตัวเป็นนิสัยธรรมชาติของมนุษย์ รัฐบาลที่โกงกินและการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยกำลังจะยังคงมีต่อไป และจะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆในวาระสุดท้ายของโลก ปัจจัยต่างๆเหล่านี้จะยิ่งทำให้ความอดอยากนี้พบกับความพินาศ
แล้วแผ่นดินไหวล่ะ? ลองดูที่สถิติการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ๆที่เกิดขี้นนับเป็นศตวรรษต่อศตวรรษตาม World Almanac of 1999 จะเห็นว่ายุคคริสตชนมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ๆเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในศตวรรษที่ 18 เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อย่างน้อย 6 ครั้ง ในศตวรรษที่19 เกิดขึ้นอย่างน้อย 7 ครั้ง และมากกว่า100ครั้งในศตวรรษที่ 20 จากข้ออ้างอิงที่กล่าวข้างต้นแสดงว่าเราเข้าใกล้ยุคนี้มากขึ้นทุกที ตัวเลขเหล่านี้ยืนยันถึงคำพยากรณ์ของพระเยซู
การสั่นบนโลกของเราไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น อาร์มีเนีย อินเดีย เม็กซิโก ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลลีส ตรุกี กรีก ไต้หวัน.....มีรายชื่อเมืองต่างๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นนี้กำลังจะถึงจุด “อาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาทุกทีๆ!”
แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นที่นี่อีกกี่ครั้งในศตวรรษที่ 21 และจะเกิดขึ้นที่ไหน? ในศตวรรษที่ 21 ของเราจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นมากมายนับเป็นร้อยๆครั้งเชียวรึ....เอ๊ะหรือ...กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวงกำลังเสด็จมา?
หมายสำคัญที่ 3 — การสะสมความมั่งคั่ง
อะไรคือความหมายของความจริงที่ว่า ความมั่งคั่งเหมือนหลุดไปอยู่ในมือคนจำนวนน้อยลงและน้อยลงทุกที ขณะที่ความยากจนขยับเข้ามาฝูงชนมากขึ้นและมากขึ้นไปเรื่อยๆ?
“ท่านสะสมสมบัติไว้สำหรับวาระสุดท้าย”
— ยากอบ 5:3
ถึงแม้ว่าความเข้าใจด้านเศรษฐกิจของเราทั้งหมดที่รู้ๆกัน และยอดมวลรวมผลผลิตแห่งชาติทางตะวันตก จะเป็นตัวเลขที่น่าพอใจน่าตื้นตันใจก็ตาม คนรวยก็ยังคงรวยขึ้นๆขณะที่คนจนก็ยังจนลงๆ ในยุคนี้ทศวรรษ 90 มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนพันธบัตรหุ้นกู้ด้อยค่ากันอย่างเพลิดเพลินจริงๆ การชำระหนี้ด้วยพันธบัตรหรือหุ้นกู้เป็นธุรกรรมระหว่างบุคคลซื้อๆขายๆกับบริษัทเหมือนการซื้อขายรถมือสองยังไงยังงั้น ผลที่ตามมาก็คือปริมาณเงินที่มากมายอย่างไม่น่าเชื่อของ “ทรัพย์สมบัติที่กักตุนไว้” เป็นของคนเพียงไม่กี่คน ขณะที่โรงงานปิดตัวลงเป็นแถบ มาตรการการลดจำนวนพนักงานในบริษัทต่างๆเกิดขึ้นเป็นว่าเล่น ทรัพย์สมบัติมหาศาลหลายๆล้านเหรียญสหรัฐเกิดจากการซื้อขายพันธบัตรเพียงสองสามครั้งเท่านั้น และนี่คือหมายสำคัญอีกอันที่บอกเราว่า “การเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว” (ยากอบ 5:8) โลกกำลังจะวิ่งเข้าหาการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูอย่างรวดเร็ว
หมายสำคัญที่ 4 — ความวุ่นวายของพลเมือง
ทำไมเกิดความไม่พอใจและวุ่นวายกันจังในหมู่พนักงาน แม้มีการนำวิทยาการชั้นสูงเข้ามาใช้และมีการกักตุนความมั่งคั่งไว้แล้วก็ตาม?
“นี่แน่ะ! ค่าจ้างของคนเหล่านั้นที่เกี่ยวข้าวในนาของพวกท่าน ที่ท่านฉ้อโกงไว้นั้นก็ฟ้องร้องขึ้น และเสียงร้องทุกข์ของคนงานเหล่านั้นที่เกี่ยวข้าว ก็ดังไปถึงพระกรรณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจอมทัพแล้ว ท่านทั้งหลายก็ต้องอดทนอย่างนั้น จงทำใจให้ดีไว้ เพราะการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว”
— ยากอบ 5:4, 8
หลังจากที่ทำนายถึงการสุมกองความมั่งคั่งเข้าไปเรื่อยๆจนหาที่สุดมิได้ในยุคของเรา ยากอบยังทำนายต่ออีกว่า ความวุ่นวายของพลเมืองเกิดจากพนักงานที่ไม่พอใจ จนเกิดความตึงเครียดระหว่าง “คนมี” กับ “คนไม่มี” เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ริ้วรอยลางร้ายแห่งสภาพความสับสนวุ่นวายนี้เกิดขึ้นเฉพาะใต้พื้นผิวเมืองใหญ่ๆของโลกเท่านั้น ยากอบชี้ว่าทัศนคติเช่นนี้เป็นหมายสำคัญอีกอันหนึ่งที่ว่า “การเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเข้ามาใกล้แล้ว”
หมายสำคัญที่ 5—ศีลธรรมที่เสื่อมถอย
เหตุใดเส้นใยแห่งศีลธรรมในสังคมจึงขาดกระเซ็นกระสายอย่างนี้?
“แต่จงเข้าใจข้อนี้ คือวาระสุดท้ายนั้นจะเป็นเวลาที่น่ากลัว เพราะผู้คนจะเห็นแก่ตัว รักเงินทอง โอ้อวด หยิ่งยโส ชอบดูหมิ่น ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อกตัญญู ชั่วร้าย ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี ทรยศ มุทะลุ โอหัง รักความสนุกมากกว่ารักพระเจ้า ยึดถือพระเจ้าแต่เพียงเปลือกนอก แต่ปฏิเสธฤทธิ์เดชของทางนั้น จงอย่าเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้น ในขณะที่คนชั่วและคนเจ้าเล่ห์จะเลวลงกว่าเก่า อีกทั้งยังล่อลวงคนอื่นและถูกคนอื่นล่อลวงด้วย”
— ทิโมธี ฉบับที่สอง 3:1-5, 13
จะมีใครสามารถอธิบายเหตุการณ์ในโลกของเราได้ถูกต้องแม่นยำไปมากกว่านี้อีกไหม? ลองส่องกล้องไปตามที่ต่างๆในยุคปัจจุบันนี้สิแล้วท่านจะเห็นภาพวัตถุนิยมที่หรูหราฟุ่มเฟือย ท่านจะเห็นภาพการกระทำทารุณและการลวนลามเด็กที่ระบาดอย่างน่าสะพรึงกลัว ท่านจะเห็นภาพหนุ่มสาวนับไม่ถ้วนควบคุมตนเองไม่ได้ เด็กแรกรุ่นฆ่าและทำร้ายคนอื่นให้พิการอย่างไม่เลือกหน้า ท่านสามารถกดปุ่มถ่ายรูปได้ชนิดภาพต่อภาพอย่างไม่หยุด ท่านจะเห็นคนรักสนุก ผู้ซึ่งพยายามสร้างความศรัทธาอันแรงกล้าของการประพฤติตัวหลงระเริงและทำตามใจตัวเอง ที่แปลความหมายให้เห็นเป็น “การมีเหตุผลดีและดูเป็นเรื่องธรรมดา” ความอิสระเสรีที่ไม่ได้รับการห้ามปรามจะครอบงำจิตใจของเราอันจะนำมาซึ่ง “เวลาที่น่าสะพรึงกลัวในวาระสุดท้าย”จริงๆ ภาพถ่ายเหล่านี้ทั้งหมดถูกแสดงไว้ในห้องแสดงภาพเพื่อประกาศออกมาดังๆว่า การเสด็จกลับมาของพระเยซูใกล้เข้ามามากแล้ว
หมายสำคัญที่ 6 — การขยายวงเรื่องความลี้ลับเหนือธรรมชาติ
ในยุคทางโลกของเรา การสนใจเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ระเบิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นจะเป็นอย่างไร?
“คนนอกกฎหมายนั้น จะมาโดยการดลบันดาลของซาตาน พร้อมกับการอิทธิฤทธิ์ทุกอย่าง ทั้งหมายสำคัญ และการอัศจรรย์จอมปลอม”
— เธสะโลนิกา ฉบับที่สอง 2:9
“เพราะว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จ และผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จหลายคนปรากฏขึ้น แสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อล่อลวงแม้พวกที่พระเจ้าทรงเลือกถ้าเป็นได้”
— มัทธิว 24:24
ข้อความเหล่านี้ทำนายว่าใกล้จะถึงวาระสุดท้ายแล้ว การทำงานของพวกปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์ซึ่งสำแดงสิ่งมหัศจรรย์และหมายสำคัญต่างๆนั้นเป็นสิ่งจอมปลอม ภาพจอมปลอมเหล่านี้ตรงข้ามกับความจริงที่ผู้สังเกตการณ์ทั้งหลายได้พยากรณ์ไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งกล่าวไว้ว่าความเป็นเหตุผลจะชนะไสยศาสตร์ที่งมงาย จากวิธีการคิดทางวิทยาศาสตร์ เราได้ถูกบอกว่ายังไงๆวิทยาศาสตร์ก็อยู่เหนือความจริงทางศาสนา วิทยาศาสตร์จะทำให้สิ่งเหนือธรรมชาติเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ล้าสมัย
แต่อะไรล่ะที่เราค้นพบขณะที่เราอยู่ใกล้ศตวรรษที่21? ในเวลาเดียวกันประชาชนได้ติดอยู่กับเครื่องเล่นเทปคลาสเซ็ทวีดีโอและไพ่ที่ทำนายอนาคต คนที่ได้รับการศึกษา คนที่คิดแบบวิทยาศาสตร์ คนที่รักความก้าวหน้าก็ยังคงเชื่อเรื่องผีสางเทวดาอยู่ดี
เรื่องลี้ลับไม่ได้ถูกทำให้หดหายไป แต่กลับมีการโฆษณากันอย่างกว้างขวาง พวกนอกรีตเป็นเพียงวิธีการใช้ชีวิตอีกทางเลือกหนึ่งเท่านั้น พวกพ่อมดหมอผีและพวกใช้เวทมนตร์จะปรากฏในรายการวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ คนในยุคใหม่ที่ขายลูกแก้ววิเศษ ที่ติดต่อกับดวงวิญญาณที่ตายแล้วมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง หมายสำคัญและสิ่งอัศจรรย์จอมปลอมได้เกิดขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว สิ่งทั้งหมดนี้ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าประวัติศาสตร์กำลังขยับเข้ามาใกล้จุดสำคัญที่สุดแล้ว ซึ่งมีเพียงแต่พระเยซูเท่านั้นที่ทรงทำนายไว้ว่า เรากำลังมีชีวิตอยู่ในช่วงของ “การเสด็จกลับมาของบุตรมนุษย์” (มัทธิว 24:27)
หมายสำคัญที่ 7 — โลกที่ตื่นตัว
การฟื้นตื่นตัวของแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออกและชนชาติต่างๆของตะวันออกไกลนั้น หมายความว่าอย่างไร?
“‘ให้บรรดาประชาชาติตื่นตัว และขึ้นมายังหุบเขาเยโฮชาฟัท เพราะที่นั่นเราจะนั่งพิพากษาบรรดาประชาชาติทั้งสิ้น ที่อยู่ล้อมรอบ จงเอาเคียวเกี่ยวเถิด เพราะถึงฤดูเกี่ยวแล้ว.... เพราะว่าความอธรรมของเขาทั้งหลายมากมายนัก!’ มวลชน มวลชนในหุบเขาแห่งการพิพากษา! เพราะวันแห่งพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว ในหุบเขาแห่งการพิพากษา”
— โยเอล 3:12-14
ทุกวันนี้เอเซียและแอฟริกาถูกปลุกให้ตื่นจากหลับ เขาตระหนักถึงความแข็งแกร่งของเขาและกำลังแสวงหาความรุ่งโรจน์ของเขาเพื่อขอเป็นเสี้ยวหนึ่งของเศรษฐกิจโลก ยุโรปตะวันออกกำลังเป็นที่ต้องการ ประเทศซึ่งเคยรวมอยู่ในสหภาพโซเวียตพยายามแย่งความเป็นใหญ่เช่นกัน ประเทศในตะวันออกกลางเรืองอำนาจด้วยรายได้จากการค้าน้ำมัน ทำให้มีอิทธิพลมากขึ้นเป็นเงาตามตัว หลังจากที่กลุ่มศาสนาหรือกลุ่มชนชาติกลุ่มใหม่ขึ้นครองความเป็นใหญ่แทนกลุ่มเก่า แผนดำเนินงานของกลุ่มเก่าก็ดูเหมือนจะล้าสมัยไปเกือบทันทีที่พิมพ์เสร็จ บางทีเราอาจเป็นประจักษ์พยานให้กับชนชาติที่ถูกปลุกให้ตื่นที่แพร่ระบาดที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาทั้งหมด “เพราะว่าวันของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว”
หมายสำคัญที่ 8 — แผนเพื่อสันติภาพและการเตรียมทำสงคราม
ทำไมเดี๋ยวเราก็พูดถึงสันติภาพเดี๋ยวก็พูดถึงสงคราม? พระเยซูทรงตรัสถึงวาระสุดท้ายก่อนการเสด็จมาของพระองค์ว่า
“ท่านจะได้ยินเสียงสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย เพราะว่าทุกสิ่งจะต้องเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยุคยังมาไม่ถึง เพราะว่า ประชาชาติกับประชาชาติ และอาณาจักรกับอาณาจักรจะต่อสู้กัน ”
— มัทธิว 24:6, 7
ก่อนถึงศตวรรษที่ยี่สิบ สงครามไม่เคยเกิดขึ้นทั่วโลกจริงๆ แต่ในศตวรรษนี้ชาติสำคัญเกือบทั่วโลกได้จับมือร่วมกับประเทศมหาอำนาจ ซึ่งแยกออกเป็นสองขั้วที่ขัดแย้งกัน และตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมาเรารู้ว่า คนที่กดปุ่มก่อนก็คือคนที่สามารถเปลี่ยนโลกของเรา ให้กลายเป็นซากปรักหักพังก่อนนั่นเอง ไม่แปลกใจเลยที่พระคัมภีร์พูดว่าพระเจ้าทรง “ทำลายพวกที่ทำลายแผ่นดินโลก” (วิวรณ์ 11:18)
เราอาศัยอยู่บนโลกที่แปลกประหลาด ทุกๆคนตกลงกันเราจะร่วมกันสร้างสันติภาพ เราพูดถึงสันติวิธี เราพูดถึงองค์กรนานาชาติที่อุทิศตนเพื่อสร้างสันติภาพ แต่ทุกๆคนก็ยังตกอยู่ในความขัดแย้งที่ต้องแก้ปัญหาด้วยกำลัง ความแค้นที่สะสมมาหลายศตวรรษ ความเดือดดาลที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ชายแดนที่รบกันด้วยกองทหารปืนใหญ่ การโจมตีอย่างฉับพลันของผู้ก่อการร้ายทำให้เกิด “การโจมตีอย่างเฉียบขาดทางอากาศ” และ “การโจมตีอย่างเฉียบขาดทางอากาศ” ก็ยิ่งทำให้เกิดการจู่โจมอย่างฉับพลันของผู้ก่อการร้าย ผู้เผยพระวจนะมีคาห์และโยเอลได้ทำนายไว้ว่า เวลานั้นชนชาติต่างๆจะคุยถึงความต้องการสันติภาพ (มีคาห์ 4:1-3) และในขณะเดียวกันความไม่เชื่อมั่นเพื่อนบ้านก็บังคับให้เขาต้องเตรียมตัวเพื่อทำสงครามเช่นกัน (โยเอล 3:9-13)
นานมาแล้วที่พระคัมภีร์ได้ให้ภาพสงครามที่ต้องการสันติภาพในยุคของเรา และประกาศว่าสันติภาพที่ถาวรจะครองโลกได้ก็ต่อเมื่อพระเยซูเสด็จมา
หมายสำคัญที่ 9 — ความก้าวหน้าสมัยใหม่
ประวัติศาสตร์มนุษย์เกิดขึ้นมาหลายชั่วศตวรรษ แล้วทำไมอยู่ดีๆมนุษย์ถึงมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมายขนาดนั้นอย่างกะทันหันขึ้นมา? ทำไมการขนส่งและการสื่อสารจึงทำให้โลกใกล้กันขนาดนี้?
“จนถึงวาระสุดท้าย คนเป็นอันมากจะวิ่งไปวิ่งมา และความรู้จะทวีขึ้น”
— ดาเนียล 12:4
หมายสำคัญแปดอย่างก่อนหน้านี้ให้เครื่องหมายไว้ว่า การเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ใกล้เข้ามาแล้ว และเริ่มเป็นจริงตามคำพยากรณ์ในยุคคริสตชนช่วงต้นๆ หมายสำคัญเหล่านี้เข้มข้นขึ้น ซับซ้อนขึ้น และเสียงดังขึ้นเป็นลำดับก่อนจะเข้าใกล้จุดสำคัญที่สุดในยุคของเรา คำพยากรณ์ของดาเนียลเป็นเอกลักษณ์ที่อ้างถึงเฉพาะในยุคของเราจนถึง “วาระสุดท้าย”
ดาเนียลชี้ว่าการพยากรณ์ของเขาจะมีมากขึ้นใน “วาระสุดท้าย” แต่ภาษาที่ใช้ในการทำนายนี้ ดูเหมือนจะไปที่ยุคข้อมูลข่าวสารผ่านคอมพิวเตอร์ เราจะได้รับข้อมูลข่าวสารทุกอย่างเร็วมากเหมือนสายฟ้าแลบ ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนต้องใช้เวลาถึงสองสามปีกว่าจะได้ข้อมูลเหล่านั้น ผู้วิจารณ์คนหนึ่งพูดว่า “การเปลี่ยนแปลงในช่วงห้าสิบปีที่ผ่านมา ยังเปลี่ยนแปลงมากกว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงสองพันปีก่อนเสียอีก เราทำอะไรต่อมิอะไรหลายพันอย่างที่ เอช.จี.เวลส์และจูลส์ เวิร์นไม่เคยคิดฝันในจินตนาการสูงสุดของเขา”
“คนเป็นอันมากจะวิ่งไปวิ่งมา และความรู้จะทวีขึ้น” ก่อนปี 1850 คนเราเดินทางด้วยม้าและรถม้าก็เรียกว่าเป็นพาหนะที่ดีมากแล้วในยุคเริ่มต้นนั้น แต่เดี๋ยวนี้เราทำลายกำแพงเสียงและขยายโลกทุกด้านจากเครื่องบินคอนคอร์ทไปจนกระทั่งกระสวยอวกาศ
การเดินทางที่เพิ่มมากขึ้นและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆเกิดขึ้นเร็วเหมือนน้ำท่วมในปัจจุบัน ทำให้เหมือนในคำพยากรณ์ของ ดาเนียล12:4 และให้หลักฐานที่ชัดขึ้นว่าเรากำลังอยู่ใน “วาระสุดท้าย”
หมายสำคัญที่ 10 — มีการประกาศข่าวประเสริฐไปทั่วโลก
พระเยซูทรงทำนายว่าแค่ก่อนที่พระองค์เสด็จมา จะมีการประกาศข่าวประเสริฐของพระองค์ไปทั่วโลก
“ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้านี้จะถูกประกาศไปทั่วโลก ให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง”
— มัทธิว 24:14
มิชชั่นนารีชาวคริสเตียนมีการเคลื่อนไหวตัวอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสองสามปีหลังนั้น เป็นสิ่งซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นเวลาหลายสิบปีที่เกือบครึ่งโลกถูกล็อคอยู่หลังม่านเหล็ก มีการปิดบังข่าวสารข้อมูลใหม่ๆ ระบบการปกครองของพวกที่ชอบข่มเหงผู้อื่น พวกไม่เชื่อพระเจ้าได้บีบคั้นให้หยุดการให้คำพยานของชาวคริสเตียน
แต่แล้วในปี 1989 เพียงเกือบชั่วข้ามคืนดูเหมือนยุโรปตะวันออก สามารถเคลื่อนตัวหนีกฎเหล็กลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ ผู้เผด็จการต้องหนีออกจากประเทศของตน กองกำลังตำรวจสายลับต้องหลบหาที่ซ่อนตัว กำแพงเบอร์ลินถูกถล่มแล้ว จักรวรรดิ์โซเวียตที่ยิ่งใหญ่แตกเสียแล้ว และเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทันใดนั้นเองครึ่งหนึ่งของโลกเราได้เปิดอ้อมแขน รับฟังข่าวประเสริฐนับตั้งแต่นั้นมา
เราเห็นการปฏิวัติจิตวิญญาณของสหภาพโซเวียตในสมัยก่อน ซึ่งก็เหมือนกับการที่ข่าวประเสริฐเข้าไปแทรก และเติมเต็มที่ว่างมากมายในจิตวิญญาณ และเป็นเช่นนี้จริงๆในส่วนต่างๆของโลกด้วย มุสลิมเคยปิดกั้นตัวเองไม่รับข่าวประเสริฐของพระคริสต์มาเป็นเวลาหลายศตวรรษ แต่เดี๋ยวนี้มีมุสลิมหลายคนหันเข้าหาพระคริสต์และยินดีต้อนรับความหวังการเสด็จมาเป็นครั้งที่สองของพระองค์
ข่าวประเสริฐกำลังไป “ทั่วโลก” อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจริงๆ ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้เกือบทุกคนและทุกชาติสามารถรับข้อมูลข่าวสารได้พร้อมกัน เทคนิคการแปลภาษาต่างๆทำให้คนทุกภาษาท้องถิ่นสามารถเข้าใจการกระจายเสียง เป็นภาษาท้องถิ่นของตนได้ในเวลาเดียวกัน เรากำลังอยู่ในช่วงเวลานั้นๆที่พระเยซูทรงประกาศว่า “ข่าวประเสริฐจะกระจายไปทั่วโลก” และแล้ว “วาระสุดท้ายจะมาถึง”
พระเยซูจะเสด็จมาในไม่ช้านั้นคือแค่ไหน?
ในรุ่นเราจะเห็นและกำลังจะเห็นหมายสำคัญที่ยิ่งใหญ่สิบอย่างเหล่านี้ ของคำพยากรณ์ ที่จะเป็นจริงต่อหน้าต่อตาของเรา
หลังจากอธิบายเหตุการณ์ต่างๆที่บอกถึงเวลาก่อนการเสด็จมาครั้งที่สอง ของพระองค์ พระเยซูทรงสรุปหมายสำคัญของพระองค์โดยทรงตรัสว่า
“เราบอกความจริงกับท่านว่า คนในยุคนี้จะไม่ล่วงลับไปก่อนทุกสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น”
— มัทธิว 24:34
การสรุปแบบนั้นเป็นไปอย่างชัดเจน ยุคที่เกิดหมายสำคัญเหล่านี้ตามคำพยากรณ์ เราจะเห็นพระเยซูเสด็จมาที่โลกเป็นครั้งที่สอง นั่นไม่ได้เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา จนกว่าพระองค์จะทรงกวาดล้างบาปและความทุกข์ทรมานออกไป พระเยซูจะเสด็จมาและจัดตั้งอาณาจักรนิรันดร์ของพระองค์
พระเยซูทรงตรัสอย่างไรเกี่ยวกับเวลาแน่นอนที่พระองค์จะเสด็จมา?
“แต่ไม่มีใครรู้เรื่องวันหรือเวลาแม้แต่บรรดาฑูตแห่งฟ้าสวรรค์หรือพระบุตร มีแต่พระบิดาองค์เดียว”
— มัทธิว 24:36
พระคริสต์ทรงให้คำเตือนที่สำคัญๆอะไรแก่เรา?
“เพราะเหตุนี้พวกท่านจงเตรียมพร้อม เพราะในเวลาที่ไม่คิดไม่ฝันนั้น บุตรมนุษย์จะเสด็จมา”
— มัทธิว 24:44
พระเยซูทรงเป็นความหวังเดียวของโลก
ในปัจจุบันคนเราจะสำนึกว่าโลกของเราวิกฤตแล้ว บางคนพยายามหาทางป้องกันอย่างสิ้นหวัง แต่วิทยาการชั้นสูงของเรา ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์ และองค์กรนานาชาติทั้งหลาย ยังคงง่วนคิดแต่ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกในโลกเรา ความขัดแย้งภายในกลุ่มที่มีขนบธรรมเนียมเดียวกัน และกลุ่มหัวรุนแรงที่เชื่อต่างจากคนส่วนใหญ่ จะคอยขจัดความเป็นเหตุผลและค่านิยมทิ้งเสีย อย่างไรก็ตามเหนือเสียงอึกทึกครึกโครมเหล่านี้ พระเยซูทรงประกาศด้วยความสงบและกล้าหาญว่า “เราเป็นทางนั้น!” (ยอห์น14:6) และพระองค์ทรงสัญญาว่า “เราจะกลับมาอีก!” (ยอห์นพระวจนะที่ 3)
พระคริสต์ทรงเป็นสิ่งสุดท้าย ทรงเป็นความหวังที่ดีที่สุดในโลกเรา เพราะมีเพียงพระองค์เท่านั้นที่สามารถจัดการกับทุกสิ่ง นั่นคือการทำลายล้างความบาป พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ที่เนินเขาหัวกะโหลกเพื่อทรงทำสิ่งที่เป็นไปได้คือ การเอาชนะความบาปและทรงปลดปล่อยคนทั้งหลาย ที่ยอมรับการไถ่บาปจากพระองค์
“ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารก็ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทรงทำลายกิจการของมาร”
— ยอห์น ฉบับที่หนึ่ง 3:8
พระผู้ช่วยให้รอดจากบาปของเราทรงสร้างทางออกให้กับโลกที่แตกละเอียด โดยทรงเสียสละเนื้อหนังมังสาและพระโลหิตของพระองค์ สักวันหนึ่งพระเยซูองค์เดียวกันนี้จะทรงรักษาความเจ็บป่วยทั้งหมดของโลกด้วยการทำลายความบาป ขอให้ท่านทูลขอและวิงวอนพระองค์ในตอนนี้เพื่อลบความผิดบาปออกจากชีวิตของท่าน ท่านไม่ต้องรอให้ถึงการเสด็จมาเป็นครั้งที่สองของพระองค์หรอก เพื่อทรงปลดปล่อยท่านให้พ้นจากความผิด จากความกังวลและจากนิสัยที่ไม่ดี พระเยซูทรงเต็มพระทัยทีเดียวที่จะมอบสิ่งที่เรียกว่าสันติสุขของพระองค์ให้แก่ท่านในเวลานี้
ขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งชื่อเจนเข้าร่วมประชุมนมัสการพระเจ้า เธอรู้สึกแปลกๆเมื่อได้ยินข่าวประเสริฐเช่นนั้น ขณะที่เธอได้ยินเรื่องราวพระผู้ช่วยให้รอดจะเสด็จมาในไม่ช้า ทุกๆส่วนทั้งหมดของร่างกายเริ่มติดอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน เจนรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ในที่สุดเธอรู้แล้วว่าเธอกำลังมองหาความรัก ความสุข และสันติสุขในวิธีที่ผิดหมด แท้จริงแล้วพระเยซูทรงเป็นคำตอบต่างหาก
ในวันต่อมาเมื่อผู้เผยแพร่ศาสนาและเพื่อนร่วมงานไปเยี่ยมเธอ เจนเล่าเรื่องขมขื่นและชีวิตที่แตกสลายจนละเอียดของเธอ เธอจมปลักอยู่ในเหวลึกของการดื่มเหล้าและหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเป็นโสเภณี หลังจากอธิบายปัญหาชีวิตของเธอ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วพูดว่า “ท่านทรงตรัสกับฉันจริงๆเมื่อคืนก่อน”
แต่เสียงนั้นที่เข้าไปสัมผัสถึงหัวใจของเธอคือเสียงของพระเจ้า พระองค์ทรงกำลังตรัสอย่างนิ่มนวล เจนจึงตัดสินใจเชิญพระคริสต์เข้ามาสถิตในหัวใจของเธอ เป็นพระผู้ช่วยให้รอดจากบาปของเธอ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเธอ และเธอผูกติดอยู่กับความหวังของการเสด็จมาในไม่ช้าของพระองค์
ในหลายสัปดาห์ต่อมา เจนเริ่มสังเกตว่าเธอไม่มีความกลัว และเธอรู้สึกปลอดภัยมั่นคงเธอได้รับการปลดปล่อย จากการดื่มเหล้าอย่างเด็ดขาดแล้ว เธอใช้เวลาเพื่อสนทนากับพระเยซูแทนการดื่มเหล้าของเธอ พระองค์ทรงเริ่มทำให้เธอหลุดจากสภาพการณ์ที่บังคับให้ชีวิตเธออับปางลง
เจนทำหลายสิ่งมากมายที่เธอไม่ได้ภูมิใจเลย แต่ด้วยพระเกียรติคุณของพระคริสต์และการอภัยบาป พิสูจน์ได้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่อยู่เหนือความละอายของเธอ เหตุการณ์ผู้ร้ายบนไม้กางเขนข้างๆพระเยซูมีความหมายต่อเธอมาก ในวาระสุดท้ายของผู้ร้ายคนนั้น ชั่วโมงแห่งความสิ้นหวังทำให้เขากลับกลายเป็นผู้ร้ายไร้เดียงสา ที่ได้รับการทรมานจากการตรึงกางเขน เขาทูลถามพระองค์ว่า “พระเยซู ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์ เสด็จเข้าไปในแผ่นดินของพระองค์” (ลูกา 23:42)
พระเยซูทรงตอบเขาทันทีโดยทรงสัญญากับผู้ร้ายคนนั้นว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม (พระวจนะที่ 43)
พระเยซูองค์เดียวกันนี้ทรงให้อภัยเจนด้วยพระเกียรติคุณ เช่นเดียวกับผู้ร้ายที่ร้ายคนนั้น ในเวลานี้พระองค์ทรงพร้อมช่วยท่านให้ได้รับการไถ่บาป ได้รับการอภัยอย่างบริบูรณ์และมีสันติสุขเกิดในจิตใจท่าน เพื่อเป็นการค้นพบสำหรับตัวท่านเองในวันนี้ ท่านสามารถที่จะอธิษฐานเหมือนผู้ร้ายที่ตายคนนั้นว่า “พระเยซูเจ้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพเจ้าเมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในในแผ่นดินของพระองค์”
ข้าแต่พระบิดาบนสรวงสวรรค์ ขอบพระคุณพระองค์สำหรับความหวังที่พระเยซูจะเสด็จมาอีกครั้งในเร็วๆนี้ ในช่วงเวลาเหล่านี้เมื่อการเสด็จได้เข้ามาใกล้ ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของข้าพระองค์คือการได้อยู่กับพระองค์ ข้าพระองค์ต้องการพระฤทธานุภาพของพระองค์ในชีวิตประจำวันของข้าพระองค์ ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้เหมือนพระเยซูมากขึ้นๆเรื่อยๆทุกวัน ในขณะที่ข้าพระองค์ทำความรู้จักกับพระองค์โดยการศึกษาพระคัมภีร์และการอธิษฐาน ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้มีความศรัทธาเพื่อที่ว่าคนอื่นจะได้ต้องการรู้จักองค์พระเยซูคริสตเจ้า ข้าพระองค์อธิษฐานในนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน
__________________
ค้นพบ บทที่ 10
1. หมายสำคัญอะไรที่พระเยซูทรงให้หมู่ชนได้ทราบว่าพระองค์จะเสด็จมาและวาระสุดท้ายของโลกใกล้จะมาแล้ว?
โลกจะดีขึ้นและดีขึ้นจนกลายเป็นยูโทเปีย
การหาสันติภาพในเวลาสงครามและมีข่าวลือของสงคราม
2. การเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ได้ใกล้เข้ามามากแค่ไหนแล้ว?
มันเป็นไปไม่ได้สำหรับใครก็ตามที่มีความคิดเปราะบางเช่นนี้
หมายสำคัญต่างๆที่บอกไว้ล่วงหน้าในพระคัมภีร์บอกว่าการเสด็จมาของพระเยซูใกล้จะมาถึงมากแล้ว
3. พระคัมภีร์มีรายการหมายสำคัญที่ชี้ถึงการเสด็จมาของพระเยซู อะไรคือหมายสำคัญทางธรรมชาติ? ลูกา 21:25-28 และ ลูกา 21:11 & 31
4. "หมายสำคัญ" ของการเสด็จมาของพระคริสต์อันไหนที่ท่านคิดว่าแพร่หลายที่สุดในทุกวันนี้?
5. เร็วแค่ไหนที่ท่านคิดว่าพระเยซูจะเสด็จมา? ทำไม?
6. หมายสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์กำลังจะเป็นความจริงในเวลาของเรา ที่ประกาศว่าการเสด็จมาของพระคริสต์ใกล้มาถึงแล้ว และพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อท่านเพื่อเตรียมท่านสำหรับการเสด็จมาของพระองค์ มันเป็นจุดประสงค์ที่จริงใจของท่านหรือไม่ที่จะพร้อมสำหรับการเสด็จมาของพระเยซูและนำท่านไปสวรรค์?
7. มันเป็นทางเลือก แต่เราจะซาบซึ้งใจที่ได้คุ้นเคยกับท่านมากขึ้น ได้โปรดบอกเราเกี่ยวกับตัวท่าน เราจะยิ่งประทับใจหากได้ยินว่าท่านจะเริ่มศึกษาคู่มือค้นพบ นี้อย่างไร โดยทางรายการวิทยุหรือมีบางคนเล่าให้ท่านฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้
1 ความคิดเห็น:
จะเป็นเช่นนั้นแน่นอน เพราะพระคำ"คือความจริง"
แสดงความคิดเห็น