14:36

บิลล์ จอร์จ กับนิยาม "ผู้นำทศวรรษที่ 21"




" บิลล์ จอร์จ" ศาสตราจารย์แห่งฮาร์วาร์ด บิสซิเนส สกูล อาจจะไม่ใช่ผู้นำที่โด่งดังมากมาย แต่เขาคือผู้หนึ่งในการสร้างผู้นำของโลก

ต้องยอมรับว่า "บิลล์ จอร์จ" เป็นผู้นำที่มีมุมมองในเรื่องของความเป็นผู้นำแตกต่างจากคนอื่นๆ โดยเขาบอกว่า วิกฤตไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ล้วนแต่เป็นการทดสอบผู้นำทั้งสิ้น

ในช่วงที่ผ่านมามีผู้นำหลายคนล้มเหลว เพราะคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องของตัวเอง แต่จริงๆ แล้ว ความเป็นผู้นำคือการให้บริการคนอื่น เหมือนกับดูแลลูกจ้างดูแลชุมชน ต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุกคน ไม่ใช่ตัวเอง

การที่จะเป็นผู้นำในทศวรรษที่ 21 จะทำอย่างไร หลายคนทีเดียวที่อยู่ในตำแหน่งสำคัญๆ ก็มองไม่เห็นในเรื่องนี้ คิดว่าเป็นเรื่องของการได้อะไรมา แทนที่จะให้อะไรไป นั่นแสดงว่าที่ผ่านมาทุกคนเลือกผู้นำจากเหตุผลที่ผิดพลาด เลือกผู้นำเพราะคิดว่าเขามีบารมี เลือกเพราะว่าเขามีภาพลักษณ์ที่ดี แต่ไม่ได้ดูถึงอุปนิสัย ซึ่งเป็นสาระสำคัญ ไม่ได้ดูถึงความซื่อสัตย์ ในบางครั้งผู้นำจึงทำให้เราสูญเสียความไว้ใจในตัวเขาไป




บิลล์ จอร์จ พูดถึงความเป็นผู้นำในทศวรรษที่ 21 ว่า แตกต่างจากผู้นำในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 มาก การบังคับและควบคุมไม่ใช่รูปแบบของผู้นำยุคใหม่อีกต่อไป ผู้นำยุคใหม่ต้องฉลาด ไม่ใช่คนที่รับฟังคำสั่งอย่างเดียว แต่ต้องเป็นผู้ที่แสวงหาโอกาส

บิลล์ จอร์จ เล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งเขามีโอกาสได้นั่งคุยกับหนุ่มคนหนึ่ง อายุ 18 ปี เขามีปัญหาตั้งแต่เด็ก โดยเขาเล่าให้ฟังว่า เขาต้องใส่เฝือกไปโรงเรียน และต้องได้รับการผ่าตัดทุกปี จนกระทั่งเขาอายุ 16 ปี เขาบอกกับตัวเองว่าเขาจะไม่ผ่าตัดอีกแล้ว เพราะเขามองว่าตรงนี้ไม่น่าจะใช่วิธีที่จะทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ โรคนี้จะทำให้ร่างกายของเขาแข็งทื่อไปเรื่อยๆ จนแทบพูดไม่ได้ เขาจึงต้องไปโรงเรียนของคนที่เป็นโรคนี้โดยเฉพาะ สำหรับเด็กอายุ 18 ปี มันเป็นชีวิตที่ย่ำแย่มาก

ในที่สุดโชคก็เข้าข้างเด็กหนุ่ม เขาได้เจอแพทย์คนหนึ่งที่สามารถรักษาเขาได้ ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงไปทันที เขาสามารถเข้าโรงเรียนธรรมดาได้ เขาลุกเดินออกจากรถเข็น เดินขึ้นบันได 3 ชั้นได้ มีแฟนเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ แล้วเขาก็บอกว่า แพทย์คนนี้คือพันธมิตรของเขา

บิลล์ จอร์จ บอกว่า วันนั้นเขานั่งฟังเรื่องราวต่างๆ ด้วยน้ำตาคลอเบ้า แล้วคิดว่าคนนี้สามารถทำงานให้กับสังคมได้

นาทีนั้น บิลล์ จอร์จ มองเรื่องของเด็กหนุ่มที่ต่อสู้มาตลอดชีวิตแล้วบอกกับตัวเองว่า ในฐานะซีอีโอจะต้องสอนคน 6 ล้านกว่าคนเกี่ยวกับวิธีคิดที่จะทำให้ชีวิตของตัวเองมีคุณค่า

และนี่คือความคิดที่ตกผลึก ที่บิลล์ จอร์จ ให้ความหมายของคำว่าผู้นำในทศวรรษที่ 21 ประการแรกไว้ว่า ผู้นำจะต้องมีพันธมิตรในการเพิ่มพลังในการจะให้บริการกับคนอื่น

ความหมายของผู้นำในทศวรรษที่ 21 ประการที่สอง คือการให้พลังกับคนอื่น คนที่จะเป็นผู้นำได้ในองค์กรต้องให้พลังความเป็นผู้นำกับคนอื่นให้เขา สามารถยืนขึ้นมาเป็นผู้นำได้

ประการที่สาม เรื่องของการให้บริการ ถ้าอยู่ในธุรกิจก็ต้องให้บริการกับลูกค้า แต่ถ้าอยู่ในองค์กรที่ไม่ได้มุ่งหวังผลกำไร ก็ต้องให้บริการกับประชาชน และต้องคิดในมุมกลับด้วย ก่อนที่จะให้บริการกับลูกค้าจะต้องให้บริการกับลูกจ้าง ให้บริการกับพนักงานในองค์กรก่อน เพราะถ้าเมื่อใดที่ผู้นำช่วยเหลือพนักงาน ดูแลห่วงใยพนักงาน ทุกคนก็จะทำงานได้ดีขึ้น

ประการสุดท้าย เรื่องของการประสานงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เอ็นจีโอต้องร่วมมือกันทำงาน จึงจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับส่วนรวม

สรุปแล้ว ผู้นำทศวรรษที่ 21 จะต้องรู้จักจัดคนให้ตรงกับพันธกิจและคุณค่า ที่สำคัญต้องให้อำนาจกับคน ทำให้คนมีจิตใจมุ่งมั่นและมีการประสานงานความร่วมมือในการทำงาน

บิลล์ จอร์จ หยิบเรื่องราวของชายชรา วัย 96 ปี มาให้ทุกคนคิดตามว่า ถ้าวันนี้ คุณอายุ 96 ปี แล้วเกิดป่วยเป็นโรคหัวใจล้มเหลว มีเวลาหายใจบนโลกนี้ได้อีกเพียง 2-3 ชั่วโมง ทั้งญาติ ทั้งลูก หลานเข้ามาดูแล มาดูว่าคุณได้สร้างความแตกต่างอะไรบนโลกใบนี้บ้าง คุณจะบอกพวกเขาอย่างไร

ในการสร้างความเป็นผู้นำให้กับตนเองและการสร้างความเป็นผู้นำให้กับคนอื่น โรเบิร์ต เคนเนดี้เคยบอกไว้ว่ามีคนไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้ แต่ว่าเราแต่ละคนสามารถเปลี่ยนแปลง สิ่งต่างๆ สามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้จากการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของคนทุกๆ คนรวมกัน

เพราะฉะนั้นคนในรุ่นนี้ ถ้าเราทุกคนกระทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ชีวิตของเรา ทำให้โลกของเรามีศักยภาพดีขึ้น ขจัดความยากจนคนละเล็กคนละน้อย ช่วยกันสร้าง สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นคนละเล็กคนละน้อย ไม่จำเป็นต้องออกไปเปลี่ยนแปลงโลกขนานใหญ่ พวกเราก็สามารถสร้างความแตกต่างในโลกนี้ได้ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการนำคนมารวมกัน ให้มีจุดประสงค์ร่วมกันในการทำงาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์

ถ้าเราได้ทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด แม้ว่าจะล้มเหลว ก็สามารถเอาชนะความล้มเหลว แล้วประสบความสำเร็จได้ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของความเป็นผู้นำ คือเรารู้ว่าเราเป็นผู้หนึ่งในการสร้างความแตกต่างในโลกใบนี้ และนี่คือความเป็นผู้นำที่แท้จริง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น