12:49

1 ใน 4 ทหารเสือ (พันเอก พระยาทรงสุรเดช)

พระยาทรงสุรเดช (เทพ พันธุมเสน)
พันเอก พระยาทรงสุรเดช

ภาพ:4tigers.jpg
4 ทหารเสือ ผู้มีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติ พ.ศ. 2475 (จากซ้าย) พ.อ.พระยาทรงสุรเดช, พ.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา, พ.อ. พระยาฤทธิ์อัคเนย์, พ.ท. พระประสาสน์พิทยายุท



พันเอก พระยาทรงสุรเดช นามเดิม เทพ พันธุมเสน อดีต 1 ใน 4 ทหารเสือที่ร่วมก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นผู้ที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ไม่ได้เป็นและถูกกล่าวหาว่าคิดก่อการกบฏล้มล้างรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในกบฏพระยาทรงสุรเดช ถูกเนรเทศไปอยู่ในกรุงพนมเปญ กัมพูชา จนเสียชีวิตที่นั่น

เทพ พันธุมเสน เป็นบุตรของร้อยโท ไท้ นายทหารกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก จากนั้นได้ทุนไปศึกษาต่อวิชาทหารช่าง ที่ประเทศเยอรมัน เมื่อจบแล้วได้ยศนายสิบ แล้วจึงเรียนต่อระดับสัญญาบัตร ได้ยศร้อยตรี ก่อนไปประจำการที่กองทหารในเมืองมักเคเบอร์ก และเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2458

จากนั้นเริ่มรับราชการทหารจนได้รับพระราชทานยศเป็น ร้อยเอกหลวงรณรงค์สงคราม เมื่อ พ.ศ. 2461 และย้ายไปเป็นผู้บังคับการทหารช่างรถไฟ กองพันที่ 2 กรมทหารบกที่ 3 มีผลงานสำคัญคือ
กบฏพระยาทรงสุรเดช หรือ กบฏ 18 ศพ หรือ กบฏ พ.ศ. 2481 เป็นเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2482 เนื่องจากความขัดแย้งระหว่าง หลวงพิบูลสงคราม กับพระยาทรงสุรเดช ตั้งแต่ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 (ทั้งๆ ที่ 2 คน ก็เป็นต้นคิดร่วมก่อการณ์กับ ท่านปรีดี พนมยงค์ ตั้งแต่ อยู่ประเทศเยอรมัน) เหตุการณ์ครั้ง กบฏบวรเดช เมื่อ พ.ศ. 2476 และเหตุการณ์พยายาม ลอบสังหาร หลวงพิบูลสงครามหลายครั้ง

เมื่อหลวงพิบูลสงคราม ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี สืบต่อจากพระยาพหลพลพยุหเสนา เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2481 พระยาทรงสุรเดช ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการโรงเรียนรบ จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำนักศึกษาไปฝึกภาคสนามที่จังหวัดราชบุรี ได้มีคำสั่งให้พ้นจากราชการโดยไม่มีเบี้ยหวัดบำนาญ และบังคับให้เดินทางออกนอกประเทศ พร้อมด้วยร้อยเอกสำรวจ กาญจนสิทธิ์ ทส. ประจำตัว
พระยาทรงสุรเดชพร้อมนายทหารคนสนิทเมื่อถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ จึงถูกให้ออกจากราชการโดยไม่มีเบี้ยหวัดและถูกบีบให้เดินทางออกนอกประเทศ ไปพร้อมกับ ร.อ.สำรวจ กาญจนกิจ โดยถูกควบคุมตัวขึ้นรถไฟไปที่ อ.อรัญประเทศ และเดินทางข้ามพรมแดนต่อไปยังกัมพูชาซึ่งในขณะนั้นเป็นดินแดนในอาณานิคมของฝรั่งเศส

ชีวิตพระยาทรงสุรเดชที่กัมพูชา ไม่มีทรัพย์เงินทองเหลือติดตัวอยู่เลย ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการทำขนมกล้วยขาย ซึ่งต้องโม่แป้งด้วยตนเอง และท้ายสุดก็สิ้นชีวิตลงในปี พ.ศ. 2487 ที่ตำหนักร้างในกรุงพนมเปญ ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตด้วยอาการโลหิตเป็นพิษ


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น